ก่อนหน้านี้ จีนมีนโยบายจำกัดการมีลูกของหนุ่มสาวยุคใหม่ เพื่อแก้ปัญหาประชากรล้นประเทศ แต่ตอนนี้ แนวทางการศึกษาใหม่พบว่า อัตราการเกิดในจีนลดลงอย่างมาก จากปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องค่าครองชีพ ค่าเลี้ยงดู รวมทั้งค่าจิปาถะต่าง ๆ ทั้งก่อนแต่งและหลังแต่ง ทำให้คู่หนุ่มสาวแต่งงานกันน้อยลง
.
ตอนนี้ รัฐบาลจีนกำลังมี Project สำคัญ ชื่อว่า Project AiLive ที่ให้คู่รักชาวจีนที่แต่งงานแล้วสามารถลงทะเบียนเข้าโครงการเพื่อมี Baby Sophia หรือ Baby Einstein เป็นหุ่นยนต์ AI Humanoid อายุ 3 ขวบ สามารถนำมาเลี้ยงเสมือนเป็นลูกของพวกเขาได้จริง ๆ
.
หากใครงงว่า Sophia คือใคร นางเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้น สามารถตอบสนองการพูดคุยได้เหมือนคนจริง ๆ ผ่านการขยับปาก น้ำเสียง ท่าทาง รวมทั้งใบหน้า ซึ่งควบคุมโดย AI ครับ และ Baby Sophia น่าจะเวอร์ชั่นที่พัฒนาต่อมา
.
โครงการนี้ เป็นมาตรการสนับสนุน ซึ่งจะเอื้อให้จีนปรับปรุงโครงสร้างประชาชากรในประเทศ เพื่อรับมือกับประชากรสูงอายุมากขึ้น หากใครเข้าร่วมมาตรการนี้ จีนจะลดค่าครองชีพ เพิ่มการสนับสนุนด้านภาษีและที่อยู่อาศัย รับประกันผลประโยชน์ทางกฎหมายของมารดาที่เข้าร่วม รวมทั้งจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก AI การแต่งงาน และการให้ความรักแก่ AIHumanoid
.
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคง งงกันมั่งแหละว่า นี่โลกเราพัฒนาจนถึงขั้นสร้างหุ่นยนต์มาเป็นลูกของคนแล้วหรอ เรื่องนี้มีที่มาที่ไปครับ ซึ่งผมได้เกริ่นไว้เบื้องต้นแล้ว ด้วยสภาวะที่คนก็อยากมีลูกนะ ด้วยหลาย ๆ ปัจจัย แต่หลายคนถูกขัดขวางด้วยต้นทุนการเลี้ยงลูกที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อในประเทศจีน ทั้งเรื่องของ ทีพักอาศัย ติวเตอร์พิเศษนอกหลักสูตร อาหาร การเดินทาง ทุกสิ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ฉะนั้นการเลี้ยงลูกที่เป็นหุ่นยนต์จะขจัดปัญหาเหล่านี้ออกไป และยังสามารถยืนยันได้ว่า หุ่นยนต์เหล่านี้ จะเลี้ยงดูพวกเขาได้ในวัยชราอีกด้วย
.
David Hanson ซีอีโอของ Hanson Robotics กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าหุ่นยนต์ Baby Sophia และ Baby Einstein อยู่ในขั้นตอนการทดลองโดยมีเป้าหมายเพื่อสำรวจว่ามนุษย์สามารถเชื่อมโยงอารมณ์และสติปัญญากับ AI Humanoids ได้ดีขึ้นอย่างไร
.
เขาคาดหวังว่า Baby Sophia และ Baby Einstein จะสามารถพัฒนาและถูกปลูกฝังผ่านการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนและสิ่งแวดล้อม พวกเขาจะเติบโตขึ้นอย่างชาญฉลาดในแต่ละวัน ซึ่งการให้คอมพิวเตอร์หุ่นยนต์มีความสามารถในการพัฒนาทักษะอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น แตกต่างจากการเรียนรู้ผ่านข้อมูลที่เป็นเลเยอร์ อาจสร้างหุ่นยนต์ที่ฉลาดและเป็นมนุษย์มากขึ้น
.
หุ่นยนต์ของ Project AiLive สามารถขยับแขนขา ฝึกมองสิ่งเร้าที่น่าสนใจ และรับสัมผัสต่าง ๆ จากเซ็นเซอร์ทั่วร่างกาย ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถเลียนแบบพฤติกรรมเพิ่มเติมจากทารกจริง ๆ ได้
.
ตอนนี้ มีคุณแม่บางท่านนำ Baby Sophia ไปทดสอบแล้ว โดย Xian Xu หนึ่งในคุณแม่วัยสาวของ Baby Sophia กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า ข้อพิจารณาหลักในการเลี้ยงลูกที่เป็นคนคือค่าอาหาร เสื้อผ้า และการศึกษา และเธอเสริมว่าตอนนี้เธอสามารถฝึกฝนเพื่อเป็นคุณแม่ของเบบี้โซเฟียและยังใช้ชีวิตเหมือนปกติได้ Baby Sophia สามารถพูดกับเธอ ยิ้มให้เธอ จนเธอรู้สึกได้ว่า Baby Sophia นั้นอาจมีชีวิตอยู่จริง ๆ
.
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นอื่น ๆ ซึ่งบางความเห็นก็แบบว่า….. เอาเป็นว่าไปลองอ่านดูดีกว่าครับ
.
“เมื่อคุณต้องการมีลูก หลายคนคาดหวังให้ลูกสามารถเลี้ยงดูตนตอนแก่ได้ แต่เด็กนั้นเห็นแก่ตัว! พวกเขางี่เง่าเพราะไม่มีการพัฒนาสมองและความรู้สึก ในขณะที่หุ่นยนต์มีสติปัญญาสูงและสามารถให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งได้ นอกจากนี้ หุ่นยนต์จะเลี้ยงดูคุณมากขึ้นในฐานะพ่อแม่ได้” Claire Hong
.
อีกความเห็นคือ “ผมและภรรยากำลังโต้เถียงกันว่าจะมีลูกทารกเป็นมนุษย์หรือ Baby Sophia ดีกว่ากัน และเราตัดสินใจว่าขอเป็น Baby Sophia ดีกว่า เพราะสามารถมั่นใจได้ว่าเธอจะดูแลเราเมื่อเราแก่ตัว” Wilson Lee ดู ๆ แล้วการมีลูกเพื่อให้พวกเขาเลี้ยงตอนแก่ คงเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของจีนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกันครับ
.
แต่บางความเห็นก็ค่อนข้างน่าสนใจครับ เพราะไม่ได้พูดถึงการเลี้ยงดูตอนแก่เลย เช่น “ลองมองไปรอบ ๆ ตัวคุณสิ มนุษย์นั้นไม่สนใจมนุษย์คนอื่นด้วยกันแล้ว พวกเขาทั้งหมดจดจ้องอยู่แต่ในสมาร์ทโฟนเท่านั้น” โดย Larry Yang ซึ่งการมีใครสักคนคอยรับฟังปัญหาอาจจะดีที่สุดสำหรับชีวิตใครสักคนหนึ่งก็เป็นได้ครับ
.
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของหุ่นยนต์ Baby พวกเขาไม่ได้เป็นแค่เด็กที่เราต้องสอนเท่านั้น พวกเขายังเป็นมากกว่านั้นได้ ดร.แฮนสัน ซีอีโอของบริษัทหุ่นยนต์ กล่าวว่า Baby Sophia และ Baby Einstein สามารถพูดภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่ว และยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยสำเนียงที่มาจากต้นกำเนิดของพ่อแม่ของเธอ หุ่นยนต์สามารถสอนทักษะทางสังคม ภาษา การบัญชี นอกจากนี้ พวกเขาจะเตือนผู้ปกครองถึงงานที่ต้องทำ สอนถึงแนวทางการสื่อสาร และกิจกรรมที่พวกเขามีอยู่ในฐานะส่วนหนึ่งของเครือข่ายครอบครัว เป็นเหมือนผู้ช่วยเสมือนได้เลยครับ
.
นอกจากเรื่องราวข้างต้นแล้ว ยังมีคนบางกลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของ Project AiLive พวกเขากล่าวว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เน้นการโปรโมทเท่านั้น โดยรัฐบาลจีนอาจกำลังวางแผนที่จะสนับสนุนให้คู่หนุ่มสาวแต่งงานและมีลูกมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาอัตตราการเกิดที่น้อยลง
.
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน แต่หุ่นยนต์ที่เชื่อ Sophia นั้นเกิดขึ้นจริงแล้ว การจะทำ Baby Sophia คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขาเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป สิ่งนี้จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาคนมีลูกน้อยลงจริงหรอ ? หรือในอนาคตจีนจะใช้หุ่นยนต์เพื่อทำงานแทนมนุษย์ แต่ให้มนุษย์เป็นคนฝึก ?
.
และวันหนึ่งเราอาจเห็นหุ่นยนต์เดินกันเต็มเมืองอย่างในเกม DETROIT: BECOME HUMAN! ที่หุ่นยนต์มีความคิด มีสิทธิและพยายามปลดแอกความเป็นทาศจากมนุษย์…
.
ขอบคุณข้อมูลที่น่าสนใจจาก https://blogs.timesofisrael.com/young-couples-in-china-to-receive-baby-ai-humanoid/