SiteMinder เผย 12 อันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมสร้างรายได้สูงสุด ปี 2563 หลังเทรนด์การจองที่พักปรับตัวจากวิกฤต

SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มตัวกลางระดับโลกในการเข้าถึงลูกค้าให้กับธุรกิจโรงแรม เผยอันดับแพลตฟอร์มจองโรงแรมที่ทำรายได้จากการจองห้องพักให้กับโรงแรมสูงสุดในปี 2563 และหลังจากโรงแรมเผชิญกับการปรับตัวการจองที่พักจากวิกฤต (hotel booking reset) ที่เริ่มในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา โดยจากกว่า 20 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตจากทั่วโลกมีแพลตฟอร์มที่ติดอันดับแตกต่างกันไป  ซึ่งเผยให้เห็นถึงทางเลือกของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้นและมีการกระจายตัวกว่าในปีที่ผ่านมา โดยกว่า 32 รายชื่อเป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมที่พึ่งไต่อันดับขึ้นมาเป็นครั้งแรก และกว่า 20 แพลตฟอร์มที่ไต่ขึ้นมาอย่างน้อย 2 อันดับจากปีก่อนหน้า

โดยสุดยอด 12 แพลตฟอร์มจองโรงแรมในประเทศไทยประจำปีพ.ศ.2563 เมื่อประเมินจากรายได้รวมที่สร้างให้กับลูกค้าธุรกิจโรงแรมของ SiteMinder ได้แก่

การจัดอันดับประจำปี 2563

1.    Booking.com

2.    Agoda

3.    เว็บไซต์โรงแรม (การจองตรง)

4.    Expedia Group

5.    Hotelbeds

6.    Trip.com

7.    Traveloka

8.    Goibibo & MakeMyTrip

9.    Fusion Holidays

10.    ช่องทางการจำหน่ายทีพักออนไลน์

11.  WebBeds – Destinations of the World

12.  Mr & Mrs Smith

การจัดอันดับหลังจากเกิดการปรับตัวการจองที่พัก (เมษายน – ธันวาคม 2563)

1.    Agoda

2.    Booking.com

3.    เว็บไซต์โรงแรม (การจองตรง)

4.    Expedia Group

5.    Hotelbeds

6.    Traveloka

7.    Trip.com

8.    ช่องทางการจำหน่ายทีพักออนไลน์

9.    Mr & Mrs Smith

10.  WebBeds – Destinations of the World

11.  WebBeds – Sunhotels

12.  Beds4Travel

 

“หลังจากเราได้เผชิญกับการปรับตัวด้านการจองที่พักในประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลง ซึ่งส่งผลให้ผู้เล่นระดับภูมิภาคอย่าง Traveloka ผันตัวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาด  นอกจากนี้เรายังได้เห็นรายชื่อแพลตฟอร์มการจองที่พักใหม่ ปรากฎอยู่ใน 12 อันดับช่องทางจองที่พักที่สร้างรายได้สูงสุดอย่าง Mr & Mrs Smith ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มองหาโรงแรมแนวบูทีคและลักซูรี่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จจากความพยายามของประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและสามารถพักระยะยาวนานกว่า 1 เดือนขึ้นไปได้ และเนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการจำเป็นต้องประเมินแนวทางและช่องทางในการขายห้องพัก รวมถึงใช้ประโยชน์จากช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งระดับนานาชาติและท้องถิ่น ช่องทางจองห้องพักทางตรงและทางอ้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสำรองที่พักและการสร้างรายได้  ” มรแบรด ไฮนส์ รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าว

การจัดอันดับประจำปีนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ยั่งยืนของช่องทางการจองตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรม ซึ่งยังสามารถคงระดับอยู่ใน 5 อันดับแรกของช่องทางการจองจากทั่วโลกไว้ได้ตลอดทั้งปี 2563 รวมถึงยังอยู่ในอันดับ 3 ของช่องทางการจองที่สร้างรายได้สูงสุดให้กับโรงแรมในประเทศไทยอีกด้วย โดยช่องทางการจองตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรมไต่อันดับสูงขึ้นในกว่าหนึ่งในสามของประเทศต่างๆนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แม้ในช่วงเวลาดังกล่าวอัตราการจองโรงแรมจะลดลงต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจในตลาดโลกได้แก่:

  • มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศยิ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจองระดับภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่น Traveloka โดยช่องทางการจองระดับภูมิภาคครองตำแหน่งหนึ่งในสามของ 12 อันดับเมื่อวัดจากการจัดอันดับประจำปี 2563 แบบเต็มปีของประเทศไทย และยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นนับตั้งแต่เริ่มเกิดการปรับตัวของการจองที่พักทั่วโลก
  • แหล่งรวบรวมห้องพักสำหรับธุรกิจ-ถึง-ธุรกิจยังคงมีบทบาทยังต่อเนื่อง โดยมี Hotelbeds ผู้ให้บริการด้าน bedbank ชั้นนำมีรายชื่อใน 12 อันดับสุดยอดแพลตฟอร์มจองที่พักของทุกประเทศที่มีการจัดอันดับ รวมถึงประเทศไทย ทั้งเมื่อวัดจากการจัดอันดับประจำปี 2563 แบบเต็มปีและภายหลังเกิดการแพร่ระบาด ส่วน WebBeds ก็ได้มีรายชื่อใน 12 สุดยอดแพลตฟอร์มจองที่พักในประเทศไทยและในอีก 7 ประเทศ เมื่อนับตั้งแต่เดือนเมษายน

“การหยุดชะงักของการท่องเที่ยวในปี 2563 ยกระดับการแข่งขันของแพลตฟอร์มจองที่พักให้แสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มอบให้กับผู้บริโภคและให้กับลูกค้าโรงแรมมากขึ้น” มร. เจมส์ บิชอป ผู้อำนวยการอาวุโสด้านบริหารจัดการความต้องการหุ้นส่วนทั่วโลก กล่าว “มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศและการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหันมาใช้บริการที่พักในประเทศมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคมักเลือกจองผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมโดยตรงหรือผ่านตัวแทนแพลตฟอร์มจองที่พักในประเทศไทย ซึ่งแม้จะมีอัตราการจองลดลงอย่างมากในช่วงแรกที่การเดินทางถูกระงับ แต่ภายหลังกลับมาเพิ่มขึ้นจากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังคงมีอยู่ ผู้บริโภคหลายรายสนใจท่องเที่ยวแบบพักผ่อนและเลือกพักในเครือ Airbnb ซึ่งมองว่ามีความปลอดภัย การจัดอันดับ 12 อันดับที่พักที่สร้างรายได้สูงสุดของ SiteMinder แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมและความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วงที่ผ่านมาอย่างแท้จริง” มร. เจมส์ บิชอป ผู้อำนวยการอาวุโสด้านบริหารจัดการความต้องการหุ้นส่วนทั่วโลก กล่าวเสริม

สามารถดู 12 แพลตฟอร์มจองโรงแรมที่ทำรายได้จากการจองห้องพักให้กับโรงแรมสูงสุดจากทั่วโลก และรายชื่อคาดการณ์กว่า 25 สุดยอดแพลตฟอร์มจองโรงแรมของปี 2564  ได้ ที่นี่

#####

กี่ยวกับ SiteMinder

ในยุคที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงตัวเลือกได้หลากหลายช่องทาง SiteMinder ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจโรงแรมเข้าถึงเทคโนโลยี
ที่ทันสมัยเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและการเติบโตของธุรกิจ SiteMinder ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มตัวกลางเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแก่ธุรกิจโรงแรม และเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่ทันสมัยแต่สามารถใช้งานง่ายเพื่อช่วยให้ธุรกิจโรงแรมสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในทุกที่และทุกการเดินทาง ซึ่งบทบาทอันสำคัญนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ SiteMinder ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมกว่า 35,000 แห่ง ใน 160 ประเทศทั่วโลก มีการสำรองห้องพักมากกว่าหนึ่งร้อยล้านครั้ง สร้างรายได้ให้ธุรกิจโรงแรมในแต่ละปีมากกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ www.siteminder.com

เกี่ยวกับ SiteMinder ในประเทศไทย      

SiteMinder ก่อตั้งสำนักงานในกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งถือเป็นออฟฟิศเพียงแห่งเดียวในทวีปเอเชีย ปัจจุบันมีพนักงานประจำมากกว่า 30 คนในประเทศไทย ที่รับผิดชอบการบริการทั่วทั้งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ฮ่องกงและอื่น ๆ

ในปี 2562 SiteMinder มีอัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27 ต่อปี ส่วนในทวีปเอเชียมีอัตราจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 ต่อปี ซึ่งอัตราการเติบโตภายในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 30 ของการเติบโตทั่วทั้งภูมิภาค

โรงแรมกว่า 35,000 แห่งทั่วโลก ใช้บริการ SiteMinder ในการทำการตลาดและจำหน่ายที่พักออนไลน์ ซึ่งร้อยละ 25 ของโรงแรมทั้งหมดนั้นตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย โดยโรงแรมกว่า 3,000 แห่งตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง Minor Hotels,  Choice Hotels International และ Frasers Hospitality โรงแรมส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่บริหารงานอย่างอิสระและสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นจากการใช้บริการของ SiteMinder

SiteMinder ได้ร่วมมือกับบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการให้บริการจองห้องพักมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อโกด้า บุ๊คกิ้งดอทคอม ทราเวลโลก้า เอ็กซ์พีเดีย และโฮเทลเบดส์

ในปี 2561 SiteMinder ได้มีการร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจโรงแรมเอสเอ็มอีในประเทศไทย ร่วมด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ กูเกิล ประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการขายห้องพักบนแพลตฟอร์มออนไลน์