จากข้อมูลของ Shoplus บริษัทในเครือ iKala ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่รวมการไลฟ์สดและการจัดการออเดอร์เข้าไว้ด้วยกันสำหรับแบรนด์และร้านค้าปลีกทั่วเอเชีย เผย ประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบตรงใจผู้บริโภค (Personalised) การไลฟ์สดขายสินค้าที่เน้นความสนุกสนาน และเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ AR จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้การไลฟ์สดขายสินค้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นในปี 2564
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ยอดคำสั่งซื้อจากการขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นกว่า 173% ส่งผลให้ยอดขายสินค้ารวมเพิ่มขึ้น 212% โดยยอดขายสินค้ารวมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า ในขณะที่คำสั่งซื้อทั้งหมดเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า การซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดียไม่ใช่ช่องทางใหม่ แต่เนื่องจากการเติบโตของประชากรชั้นกลาง การเชื่อมต่อด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมและเสถียรมากขึ้น รวมถึงความท้าทายของร้านค้าปลีกจากการระบาดของโรคโควิดส่งผลให้ทั้งแบรนด์ ร้านค้า รวมถึงผู้บริโภคหันมาใช้การไลฟ์ขายสินค้าเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายใหม่
“หลายๆแบรนด์ยังขาดการปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับผู้บริโภค ซึ่งการหันมาใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซแบบเต็มรูปแบบอาจต้องใช้เงินทุนมหาศาล Shoplus ผู้ให้บริการการขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดจึงมอบทางเลือกที่ง่ายกว่าให้ร้านค้าสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าได้ โดยมาพร้อมกับระบบอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็น ระบบชำระเงิน ระบบจัดการออเดอร์และระบบคลังสินค้า เราประสบความสำเร็จในการวางรากฐานอันแข็งแกร่งในตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา และเราเชื่อมั่นว่านวัตกรรมที่เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าของผู้ซื้อและผู้ขายจะเป็นตัวเร่งการเติบโตในปี 2564 ยิ่งขึ้นไปอีก” คิมมี เฉิน ผู้จัดการทั่วไป Shoplus กล่าว
จากรายงานด้านเทคโนโลยีในเอเชียฉบับล่าสุดของแมคคินซีย์ เผยว่า “ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์แบบที่สามารถมีส่วนร่วมได้และเป็นรูปแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น” โดย Shoplus ได้เผยถึงเทรนด์ที่จะเข้ามายกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์และเพิ่มอัตราการช้อปปิ้งออนไลน์ให้สูงขึ้นในปี 2564 พร้อมให้คะแนนที่ส่งผลต่อพัฒนาการไลฟ์สดขายสินค้า
- เชื่อมต่อประสบการณ์ค้าปลีกเต็มรูปแบบ – 4 ดาว: ในปีนี้มีหลายแบรนด์เริ่มใช้และประสบความสำเร็จบนช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซ และในขณะที่ระบบในห่วงโซ่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ร้านค้าปลีกเริ่มเห็นคุณค่าในการสามารถควบคุมประสบการณ์ค้าปลีกแบบเต็มรูปแบบได้เอง ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งเสริมความภักดีของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยการทำทุกอย่างบนแพตลฟอร์มเดียวและสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น เชื่อมต่อการชำระเงิน ติดตามออเดอร์ จัดส่งและคืนสินค้า – จะเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างให้แบรนด์มากขึ้นไปอีกในปี 2564 รวมถึงความสามารถในการมอบบริการเต็มรูปแบบนี้ก็จะยิ่งดึงดูดให้แบรนด์ใหญ่ๆ เข้ามาลงทุนใช้การไลฟ์สดมากขึ้นด้วย
- ใช้คนมีชื่อเสียงและ KOLs เพื่อสร้างความบันเทิงในการช้อปปิ้งมากขึ้น – 3 ดาว: แบรนด์จะมองหาวิธีการในการเพิ่มคุณค่าให้กับประสบการณ์การไลฟ์สดขายสินค้าของตนเองมากขึ้น ซึ่งหลายแบรนด์เลือกใช้คนมีชื่อเสียงและ KOLs ในการไลฟ์สดเพื่อดึงดูดลูกค้า แบรนด์ใหญ่บางแบรนด์อาจใช้เงินลงทุนสูงโดยการเพิ่มลูกเล่นในการไลฟ์สดให้เป็นรูปแบบเกมส์โชว์ มินิคอนเสิร์ต หรือ เล่นเกมส์เพื่อนำเสนอส่วนลดพิเศษให้กับคนที่ดูไลฟ์ ในขณะที่แบรนด์ใหญ่อื่นๆ ก็อาจเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อขยายฐานลูกค้าแทนการใช้ KOLs ส่วนบางแบรนด์อาจเลือกวิธีสร้างความบันเทิงในรูปแบบของตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง
- จากปัญญาประดิษญ์ (AI) สู่เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) – 3 ดาว: ปัญญาประดิษฐ์ (AI) นับเป็นฟีเจอร์สำคัญในการดำเนินการจัดการออเดอร์และคำขอต่างๆจากลูกค้าบนช่องทางไลฟ์สด และในปี 2564 นี้ เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆของ AR ที่มอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถ ‘ลอง’ ก่อน ‘ซื้อ’ ด้วยการใช้ห้องลองชุดเสมือนจริงที่มีพื้นหลังหลากหลายแตกต่างกันไปเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชุดที่เหมาะกับตัวเองที่สุด ถือเป็นวิธีให้ผู้ค้าปลีกเชื่อมต่อกับผู้ซื้อในรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้นและเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย ถึงแม้อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบขึ้นมา โดยคาดว่าจะมีการเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ในปี 2564 และจะแพร่ขยายมากขึ้นอีกในปี 2565 หลังจากที่ 5G เป็นที่นิยมและเข้าถึงได้มากขึ้น
- ผู้ชมสามารถออกแบบประสบการณ์ช้อปปิ้งของตัวเอง – 5 ดาว: การไลฟ์สดที่ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันจะก้าวสู่อีกขั้นด้วยการให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากเห็นอะไรระหว่างการไลฟ์สด ร้านค้าให้ลูกค้าโหวตได้ว่าอยากให้ร้านค้าขายสินค้าชิ้นไหนเป็นชิ้นต่อไป หรือกระทั่งเลือกราคาสินค้าและส่วนลดสินค้าที่ตนชื่นชอบได้ นับเป็นอีกก้าวของการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่จะกลายเป็นที่นิยม ไลฟ์ขายสินค้าชิ้นพิเศษ – 4 ดาว: อีกวิธีของแบรนด์ที่ให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในการไลฟ์สดมากขึ้น คือการมอบส่วนลดพิเศษในระหว่างการไลฟ์สด โดยอาจเป็นการมอบราคาพิเศษ ข้อเสนอพิเศษ หรือสินค้าออกแบบพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ดูไลฟ์สดเท่านั้น ที่ผ่านมาร้านค้าอิสระหลายร้านประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าเข้ามาที่ร้านด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษ และแบรนด์ใหญ่ๆหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน
- ไลฟ์ขายสินค้าชิ้นใหญ่ – 3 ดาว: ผู้ค้าปลีกที่ขายสินค้าขนาดใหญ่ – ตั้งแต่รถไปจนถึงบ้าน – เลือกใช้วิธีการไลฟ์สดเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ในขณะที่อุตสาหกรรมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ประเภทสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ยิ่งสินค้าที่มีคุณค่าสูงก็จะมีวิธีใหม่ๆในการเล่าเรื่องราวเพื่อเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะตัวยิ่งขึ้น โดยอาจใช้เวลาในการพัฒนาแต่นับเป็นพื้นที่ที่ท้าทายความสามารถในการหาแนวทางนำเสนอสินค้าที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียได้พัฒนาความสามารถเพื่อส่งเสริมด้านโซเชียลคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ร้านค้าปลีกควรหาวิธีให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ แบรนด์ควรเปิดรับและปรับตัวให้เร็ว แต่การทำทุกอย่างพร้อมๆกันอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการลงทุนในเทคโนโลยีด้านโซเชียลคอมเมิร์ซไม่ว่าจะเป็น การคิดวิเคราะห์ล่วงหน้าแบบเรียลไทม์ โซลูชั่นการจัดการออเดอร์ด้วย AI การสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าบนสังคมออนไลน์ และอุปกรณ์ถ่ายวิดีโอ ระบบเสียง รวมถึงการจัดไฟที่มีคุณภาพก็เป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของร้านค้าได้
Shoplus ระบบจัดการออเดอร์อย่างครบวงจรมีขั้นตอนการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก เชื่อมต่อกับ Facebook ได้โดยตรง ให้ร้านค้ามีส่วนร่วมกับผู้ชมได้มากขึ้น สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ช่วยจัดเก็บและจัดการออเดอร์พร้อมปิดยอดรับชำระเงินด้วยฟังก์ชั่นต่างๆไม่ว่าจะเป็น AI-Live sell จาก Shoplus ที่ช่วยจัดเก็บออเดอร์อัตโนมัติจากคอมเมนต์และข้อความ ไปจนถึงติดต่อลูกค้าเพื่อปิดออเดอร์ระหว่างไลฟ์ได้ทันที ซึ่ง AI-Chatbot เป็นระบบบอทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขายออนไลน์ของ Shoplus ช่วยทักหาลูกค้าที่สนใจสินค้า เพื่อแนะนำการสั่งซื้อ ยืนยันออเดอร์และช่วยปิดการขายได้อัตโนมัติ ส่วน AI-Messenger จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและนำข้อมูลการจัดส่งของลูกค้าในแชทมาสร้างเป็นออเดอร์ให้อัตโนมัติ
เกี่ยวกับ Shoplus
Shoplus รับรางวัลด้านบริการเทคโนโลยี AI ระบบจัดการร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียลมีเดียครบวงจร ภายใต้การดูแลของบริษัท iKala ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และสินค้าบริการที่ออกแบบขึ้นบนพื้นฐานการให้ความสำคัญของผู้ใช้เป็นอันดับหนึ่ง โดย Shoplus มอบโซลูชั่นที่ครบสมบูรณ์ในที่เดียว ตั้งแต่ AI-Live Selling Chatbot Smart Order Management System และ AI Social CRM ที่เหมาะสำหรับทั้งร้านค้าปลีกไปจนถึงแบรนด์ขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงได้และไต้หวัน
เกี่ยวกับ iKala
พันธกิจของ iKala คือ “การพัฒนาขีดความสามารถของ AI” ของลูกค้าองค์กรของเรา เพื่อเพิ่มความสามารถในการดึงดูดลูกค้าและมูลค่ากิจการของลูกค้า ด้วยการปฏิวัติทางดิจิตัลด้วย AI และการขับเคลื่อนทางการตลาดด้วยข้อมูล โดยลูกค้าจากกว่า 400 องค์กร จาก 12 อุตสาหกรรม และนักโฆษณากว่า 15,000 คน รวมถึงบริษัทที่ติดอันดับใน Fortune 500 ล้วนเลือกใช้เทคโนโลยีจาก iKala เป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจ ยอดการเข้าถึงลูกค้า และสร้างการขายด้วย AI บริษัท iKala ให้บริการครอบคลุมทั้งประเทศไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย