จากการที่คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เหล่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าอุปกรณ์ชนิดนี้มีความจำเป็นจริงหรือไม่ ซัมซุงจึงอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหนึ่งในไอเท็มลำดับต้นๆ ที่คนรักสุขภาพมือใหม่ให้ความสนใจ อย่าง Smart Band ให้ดียิ่งขึ้น แล้วจะได้รู้ว่าทำไมใครๆ ถึงอยากเป็นเจ้าของกัน
บันทึกทุกกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างความมุ่งมั่นและท้าทาย
สถิติชี้ให้เห็นว่า 50% ของผู้ที่เริ่มออกกำลังกายจะหยุดทำกิจกรรมดังกล่าวหลังผ่านไป 6 เดือน โดยหนึ่งเหตุผลสำคัญเกิดจากการขาดกำลังใจในการออกกำลังกาย ซึ่งอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ผู้สวมใส่มีแรงจูงใจและแรงผลักดันมากยิ่งขึ้น จากการได้เห็นพัฒนาการของร่ายกาย จากข้อมูลที่ได้บันทึกไว้ในแต่ละครั้งที่ได้ออกกำลังกาย รวมถึงการได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อแข่งขันกับตัวเองและผู้อื่น ถือเป็นการท้าทายเพื่อให้ก้าวไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดย Galaxy Fit2 สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวให้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่านโหมดออกกำลังกายอัตโนมัติที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ พร้อมการติดตามจำนวนก้าวเดิน และโหมดออกกำลังกายอื่นๆ อีกกว่า 90 โหมด รวมถึงสามารถกันน้ำลึกถึง 50 เมตร ด้วยมาตรฐานการรองรับระดับ 5ATM เพื่อให้ผู้ใช้ได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมได้อย่างครบครัน
มากกว่าแค่ “การออกกำลังกาย” แต่คือตัวช่วยด้าน “สุขภาพ”
การมีสุขภาพที่ดีมีมากกว่าแค่เรื่องการออกกำลังกาย ดังนั้น Galaxy Fit2 จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการดูแลที่มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการนอนหลับ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สวมใส่นอนหลับสนิทนานถึง 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จากการวัดปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการแสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนอนหลับด้วยคะแนนการนอนหลับโดยรวมที่ดูได้จากแอปพลิเคชัน Samsung Health ด้านความเครียด Galaxy Fit2 จะช่วยติดตามระดับความเครียดโดยอัตโนมัติ ซึ่งหากผู้ใช้เกิดอาการเครียด สามารถกดเริ่มโปรแกรมฝึกการหายใจเข้าออก เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการแจ้งเตือน inactive time alert เพื่อให้ผู้ใช้ขยับตัว เมื่อผู้ใช้อยู่นิ่งนานเกินไปได้อีกด้วย ด้านสุขอนามัย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้คนส่วนใหญ่รู้ว่าการล้างมือช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ ดังนั้น สายรัดข้อมือรุ่นนี้จึงมาพร้อมกับการตั้งค่าเพื่อแจ้งเตือนให้ล้างมือ และนับเวลาในการล้างมือเพื่อให้มั่นใจด้านความสะอาดยิ่งขึ้น
มอบเวลาแห่งความสงบ กับการพักผ่อนจากโลกโซเชียล
การสวมใส่ Galaxy Fit2 สามารถทำให้ผู้สวมใส่ลดการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือการเล่นโซเชียลมีเดียโดยไม่จำเป็นลงได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำได้ดีกว่าเดิม โดยที่ไม่พลาดการติดต่อสำคัญแต่อย่างใด เพียงแค่จับคู่ Galaxy Fit2 เข้ากับสมาร์ทโฟนซัมซุง[1] ผู้ใช้ก็จะสามารถตรวจสอบการแจ้งเตือนและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วจากข้อมือ รวมถึงควบคุมเพลงในแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
Samsung Galaxy Fit2 สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นล่าสุด ในหน้าจอ 3D Curved Glass และการแสดงผลแบบ AMOLED สีสันสดใส ขนาดกว้าง 1.1 นิ้ว เพื่อการอ่านข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดดเด่นด้วยดีไซน์อันทันสมัย กับตัวเรือนที่มีความบางเพียง 11.1 มิลลิเมตร ทำให้สวมใส่สบาย ระบายเหงื่อได้ดี เหมาะกับการใช้งานตลอดทั้งวัน พร้อมมอบการใช้งานอย่างไร้กังวลไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมดกับการชาร์จเพียงครั้งเดียว ใช้งานได้ถึง 21 วัน[2] ผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ในราคาเพียง 1,590 บาท ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/wearables/galaxy-fit2-r220/SM-R220NZKATHO/
[1] Galaxy Fit2 ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 หรือรุ่นใหม่กว่า, RAM 1.5GB ขึ้นไป, iOS 10 และรุ่นใหม่กว่า, iPhone 7 และรุ่นใหม่กว่า คุณลักษณะบางประการอาจไม่รองรับกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS
[2] เมื่อใช้งานน้อย (ปิดตัวติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและการออกกำลังกาย และไม่สวมใส่ขณะนอนหลับ)