ขณะที่ภาคธุรกิจกำลังตื่นตัวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Personal Data Protection Act (PDPA) โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 แม้จะถูกเลื่อนออกไปอีก 1 ปี เพราะการระบาดของ Covid-19 แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่องค์กรอาจรอช้าได้อีกต่อไป สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมความพร้อมที่จะจัดการกับข้อมูลอ่อนไหวที่อยู่ในครอบครอง ทั้งข้อมูลที่เป็นตัวอักษรซึ่งถูกจัดเก็บในรูปแบบไฟล์บนคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งข้อมูลในรูปแบบเสียงที่หลายองค์กรมักมองข้าม
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทย อย่างเช่น Contact Center การบันทึกเสียงสนทนาระหว่างลูกค้าและพนักงาน ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่ต้องได้รับความคุ้มครอง โดยแจ้งให้ลูกค้าทราบทุกครั้งที่มีการบันทึกเสียง และสามารถขอเรียกดูข้อมูลได้หากถูกร้องขอ
ไม่เปลี่ยน เสี่ยงโดนปรับ สิ่งสำคัญที่คนเก็บข้อมูลต้องรู้
หน่วยงานหรือองค์กรใดที่ไม่มีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้อย่างเป็นระบบ ตามกฎหมาย PDPA นั้นจะมีบทลงโทษทางแพ่งและอาญาคือ
- โทษปรับสูงสุด 5 ล้านบาท
- จำคุกสูงสุด 1 ปี
- จ่ายค่าเสียหาย รวมถึงสินไหมทดแทน สูงสุด 2 เท่าของค่าเสียหายตามจริง
- หากผู้กระทำผิดเป็นนิติบุคคลกรรมการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลอาจต้องรับผิดด้วย
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมาย PDPA ประกอบไปด้วย ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ไอพีแอดเดรส และข้อมูลอื่น ๆ ที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลพฤติกรรมทางเพศ แนวคิดด้านการเมือง หรือปัญหาด้านสุขภาพ องค์กรธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อมูลดังกล่าว มีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลให้เป็นความลับ และต้องขออนุญาตเจ้าของข้อมูลหากมีการจัดเก็บ พร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลนั้นอย่างชัดเจน
ข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ได้มีแค่ตัวอักษร
ระบบในการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบไฟล์เสียง (Voice) มีความสำคัญไม่แพ้ระบบจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบข้อความ (Text) ที่หัวใจสำคัญคือความปลอดภัย คุณภาพเสียงต้องชัดเจน มีระบบประมวลผลกลางที่มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บเป็นความลับ แม้แต่กับตัวพนักงานเอง เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นหรือการถูกฟ้องร้อง หากระบบที่ใช้ไม่มีความรัดกุมมากพอ
ข้อมูลเสียง กับข้อได้เปรียบทางธุรกิจ
- เสียง ใช้เป็นข้อยืนยันในทางกฎหมาย
ธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องติดต่อและรับความคิดเห็นจากลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลเสียงระหว่างการสนทนาที่ถูกบันทึกไว้ จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ยืนยันในทางกฎหมาย หากเกิดกรณีการว่าร้าย หรือการฟ้องร้องเกิดขึ้น ระบบที่มีจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรและลูกค้าได้
- เสียง ใช้เพื่อพัฒนาบริการ
ถึงแม้ปัจจุบันหลายองค์กรจะเริ่มใช้เทคโนโลยีระบบตอบรับอัตโนมัติผ่าน AI หรือ Chatbot เพื่อตอบคำถามกับลูกค้าแทนคน แต่อย่างไรก็ตามการสื่อสารกับพนักงานยังคงตอบสนองความรู้สึกของลูกค้าได้มากกว่า ซึ่งบทสนทนาที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงบริการได้ในอนาคต
- เสียง ใช้เพื่อยืนยันข้อตกลง
บางธุรกิจที่จำเป็นต้องทำข้อตกลงระหว่างองค์กรและลูกค้าผ่านช่องทางเสียงเพื่อตอบรับ หรือยืนยันการเลือกใช้บริการ เช่น ข้อตกลงในการอัปเกรดบริการตามโปรโมชั่นใหม่หรือทำการซื้อขาย ซึ่งลูกค้าสามารถยืนยันการใช้งานผ่าน Contact Center ได้นั้น ระบบจัดเก็บข้อมูลเสียงที่ใช้จำเป็นต้องสำรองข้อมูล และเรียกใช้ได้ตามต้องการ
โดยในปัจจุบัน มีผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและบันทึกไฟล์เสียงสนทนาอย่าง SINO S-TECH ที่เป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์การจัดเก็บข้อมูลไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูงสุดในโลกอย่าง NICE ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ข้อมูลชัดเจน และมีความปลอดภัยสูง
การเลือกโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลเสียงจึงมีความสำคัญกับหลายธุรกิจ
Solution ความปลอดภัยที่ธุรกิจมองหา
ธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม โดย Solution ที่เหมาะสม จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปไม่อย่างติดขัด แม้ว่าภาครัฐจะปรับกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ และเพิ่มการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นในอนาคต
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการระบบจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศไทยอยู่หลายราย โดยแต่ละโซลูชั่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้โซลูชั่นที่ดีต้องมีความทันสมัย สามารถรองรับกับการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งข้อมูลที่ส่งผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook , Twitter หรือ LINE ก็จำเป็นต้องอยู่ในความคุ้มครองเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามระบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบ Voice Recording นับเป็นเรื่องสำคัญ ที่องค์กรต้องเลือกให้สอดรับกับการใช้งาน ระบบการบันทึกข้อมูลสามารถประยุกต์ให้เข้ากับข้อบังคับด้านกฎหมาย PDPA ได้อย่างไม่ติดขัด
8 จุดเด่น ที่ระบบจัดเก็บข้อมูลเสียงต้องมี หาก PDPA เริ่มบังคับใช้
- สามารถจัดเก็บข้อมูลทั้ง Voice และ None Voice ได้หลายช่องทาง มั่นใจได้ว่าทุกข้อมูล Data (Omnichannel) จะถูกบันทึกและสามารถค้นหาได้อย่างง่าย
- มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตั้งค่า ปรับเปลี่ยนระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลได้ตามต้องการ
- มีระบบกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน ภายใต้ขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ช่วยป้องกันความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้
- มีระบบค้นหาข้อมูล ที่แม่นยำและใช้งานง่าย
- ตรวจสอบคุณภาพเสียง และแจ้งเตือนต่อผู้ดูแลระบบทันที หากพบการละเมิดกฎด้านความปลอดภัย ซึ่งตามกฎหมายแล้วต้องแจ้งต่อเจ้าของข้อมูลภายใน 72 ชั่วโมง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฏหมายได้
- มีหน้าจอแดชบอร์ด เพื่อติดตามและตรวจสอบภาพรวมการทำงานได้อย่างสะดวก
- รองรับการเข้าใช้งานด้วยมาตรฐานของ Microsoft ADFS (Active Directory Federation Services)
- ภาพรวมของระบบ ต้องสอดรับกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของไทย (PDPA)
คุณสมบัติทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ NICE ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลภายใต้ บริษัท ชีโน-เทค จำกัด ที่ได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีระบบ Interaction Recording รองรับความต้องการจัดเก็บและบันทึกไฟล์เสียงสนทนาระหว่างลูกค้า ตัวอย่างเช่นธนาคาร , ผู้ให้บริการคอนแทคเซ็นเตอร์เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยสามารถบันทึกข้อมูลได้แบบ Omnichannel และจัดเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบ ค้นหาง่าย และสามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบของธุรกิจได้แบบไร้รอยต่อ