ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้แน่ ๆ ในยุคนี้ ไม่ว่าจะบนโต๊ะคอม ในบ้าน หรือพกพาไปเที่ยว เพราะนอกจากจะมีดีไซน์สวยงามเหมาะกับการเอาไปวางไว้ในบ้าน หรือพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้แล้ว เรื่องคุณภาพเสียงก็ยังถูกพัฒนาให้ดีขึ้น แถมมีให้เหลือหลากหลาย จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะเลือกแบบไหนถึงเหมาะ และใช้งานได้คุ้มสุด
Techhub เพามาดูเทคนิคเลือกซื้อลำโพงบลูทูธให้ใช้งานได้แบบคุ้มๆ และเหมาะกับเรา กับ 9 เทคนิคเลือกลำโพงบลูทูธ ปี 2022 เอาไว้เป็นไกด์ตอนเลือกซื้อ หรือเป็นคู่มือแบบง่ายๆ ตอนใช้งานกัน
1. คุณภาพเสียง
ตัวไหนเสียงดี ? ตัวไหนเรื่องเสียงเด่นมาก? ในลำโพงพกพาหลาย ๆ รุ่น จะมีบอกเลยว่าตัวลำโพงมีบุคลิกเสียงยังไง เช่น เบสที่ทรงพลัง เสียงกลางคมชัด แต่ด้วยความเป็นลำโพง แค่คำโปรโมทคงไม่พอ ต้องหารีวิวดูเพิ่ม หรือทางที่ดีคือไปฟังเองเลยที่ร้านจะดีกว่า เพื่อความช้วร์ เพราะรสนิยมการฟังของแต่ละคนนั้นแตกต่างๆ กัน
2. ขนาดที่เหมาะสม
บางครั้งเราก็ต้องถามตัวเองว่า ซื้อแล้วจะเอาไปใช้ที่ไหน เช่น จะจัดโต๊ะคอม เราก็ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่บนโต๊ะ การจัดวาง ความสวยงามต่างๆ หรือ ต้องการซื้อไปวางในห้องขนาดเท่าไหร่ เพื่อให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงไปได้ถึง ประเด็นนี้ก็อาจจะต้องคิดเหมือนกันนะ เพราะถ้าเลือกตัวเล็กไป แล้วไปวางในห้องใหญ่อันนี้ก็อาจจะไม่เหมาะหรือเปล่า หรือเราเน้นพกพาไปพังนอกบ้าน ลำโพงที่มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ย่อมตอบโจทย์มากกว่าแน่นอน
3. ความจุแบตเตอรี่
เนื่องจากลำโพงบลูทูธ อาจต้องทำงานแบบไร้สายตลอดเวลา ถ้าเราไม่ได้สนใจเรื่องนี้ จะมีปัญหาตอนที่เราต้องมานั่งชาร์จในเวลาที่เราไม่ได้สะดวก โดยเฉพาะตัวพกพา เพราะฉะนั้นเรื่องแบตก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ
4. ปรับแต่งฟังก์ชันได้จากมือถือ
เป็นอีกข้อที่น่าสนใจในการเลือกซื้อลำโพงบลูทูธยุคนี้ เพราะเดี๋ยวนี้จะมีตัวที่มีลูกเล่นที่สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นเสริมของลำโพงได้ เช่น การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ ปรับสีไฟ RGB เพิ่มลูกเล่น หรือเปลี่ยนภาพบนจอลำโพง ก็ยังทำได้ผ่านแอป
5. อุปกรณ์เชื่อมต่อ
เป็นอีกข้อที่ต้องพิจารณาถึงเวลาที่เรานำไปใช้กับอุปกรณ์ที่เราต้องการเอาไปเชื่อมต่อด้วยนะครับ เพราะบางทีแค่พอร์ต USB อันเดียว อาจจะไม่พอ เพื่อจะให้มันทำได้งานสูงสุด ก็ควรเลือกลำโพงที่มีพอร์ตให้ใช้ได้หลาย ๆ รูปแบบดีกว่าครับ
6. มาตรฐานกันน้ำ และฝุ่น
ใครที่คิดว่าจะซื้อน้องมาพกพาออกจากบ้าน ก็ยิ่งต้องคำนึงถึงข้อนี้มาก ๆ ครับ เราควรพิจารณาลำโพงที่สามารถทนทานต่อน้ำและฝุ่นได้ในระดับหนึ่งด้วย ซึ่งมาตรฐานกันน้ำจะมีหลายแบบ บางแบบสามารถลงน้ำได้ลึกก็มี อันนี้เราก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมต่อครับ
7. เวอร์ชันบลูทูธที่รองรับ
ก็เหมือนกับพวก Wi-Fi และเทคโนโลยีไร้สายอื่น ๆ เลยครับ เราจะเห็นว่ามีการออกเวอร์ชั่นใหม่ ๆ มาตลอด เราต้องดูว่ารองรับกับอุปกรณ์เรามั้ย ซึ่งแต่ละเวอร์ชันมีช่วงการเชื่อมต่อที่ยาวขึ้น ความเร็วในการถ่ายโอนที่เร็วขึ้น และสัญญาณที่แรงขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันจะอยู่ที่ Bluetooth 5 ครับ
8. แบรนด์ที่ชอบ
ขึ้นอยู่กับความชอบล้วน ๆ แนะนำให้ลองดูรีวิวของลำโพงพกพาที่เล็งไว้ ถ้ามีรีวิวก็แสดงว่าเป็นลำโพงที่มีชื่อในระดับหนึ่ง วางใจได้ และหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น ลองเปรียบเทียบรีวิวดูครับ แต่หากไม่มีรีวิวก็ลองดูแบรนด์แทนได้ ดูว่าแบรนด์นี้เคยมีลำโพงตัวไหนของแบรนด์ที่มีการรีวิวมาแล้ว หรือมีใครพูดถึงในโซเชียลบางไหม ถ้าไม่มีเลย ก็แอบน่ากลัวอยู่นะ
9. งบประมาณ
ไม่ต้องพูดเยอะ แค่ดูจากทุกข้อทั้งหมดที่กล่าวมา จะถูกหรือแพง ก็อย่าลืมดูงบประมาณที่มีก่อนเป็นอันดับแรก หากงบน้อย เช่น ไม่เกิน 500 ก็พยายามดูตัวที่ดีที่สุดในงบ 500 บาท คัดมาก่อนว่ามีกี่ตัว จากนั้นก็หาโอกาสไปลองฟัง หรือหาข้อมูลก่อน งบเยอะ ก็ทำแบบเดียวกัน แต่ก็พยายามหาด้วยว่า ลำโพงพกพาตัวแพงที่จะซื้อ มีบุคลิกเสียงตรงใจเราหรือไม่ แค่นี้ก็พอแล้วครับ
รู้หรือไม่ : สิ่งที่ควรทำหลังจากซื้อลำโพงใหม่ คือเปิดเสียงในระดับที่ไม่ดังมาก ต่อเนื่อง เพื่อวอร์มลำโพงก่อนใช้งานจริงจัง เพื่อให้เสียงดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วลำโพงแต่ละชนิด แต่ละขนาด จะมีระยะเวลาการเบิร์นที่แตกต่างกัน โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ประมาณ 100-200 ชั่วโมง
หากกำลังมองหาลำโพงบลูทูธ ลองค้นหารุ่นที่ถูกใจได้ครับ >> https://bit.ly/3w4jqtH
#TechhubTipandtrick #speaker #ลำโพงบลูทูธ #BluetoothSpeaker