ก้าวสู่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2017 มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ที่บางอย่างเพิ่งเริ่มต้น แต่บางอย่างก็มีการเคลื่อนไหว ได้ลองใช้กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว มาถึงตอนนี้มีเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นมาให้สัมผัสกันตั้งแต่ต้นปี และเชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้ จะมีอะไรใหม่ ๆ มาให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ภายในบ้านได้บันเทิงกันอย่างแน่นอนและไม่ซ้ำซากจำเจ
1. โน้ตบุ๊กหลากหลายฟังก์ชันยังคงมีมาให้เลือก
ต้องถือว่าในปัจจุบันความก้าวหน้าในการออกแบบโน้ตบุ๊กเป็นไปอย่างรวดเร็ว และการแสดงออกของผู้ใช้ในช่วงวันเป็นตัวกำหนดรูปแบบของโน้ตบุ๊ก จึงไม่ต้องแปลกใจที่ในวันนี้คุณจะสามารถเลือกโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับตัวของคุณเองได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊กเล็กบางพกง่าย, Convertible โน้ตบุ๊ก ปรับหมุน พับ กางหน้าจอได้อิสระ หรือจะเป็นโน้ตบุ๊กเล่นเกม การ์ดจอแรง หน้าจอใหญ่ ความละเอียดสูง โน้ตบุ๊กทำงานที่ประหยัดไฟ ความร้อนน้อย หรือจะเป็นแบบถอดหน้าจอ กลายเป็นแท็บเล็ต คุณสามารถเลือกได้ตามที่ต้องการ หรืออย่างในงาน CES 2017 ที่ทาง Razer เผยโฉมโน้ตบุ๊ก 3 หน้าจอสำหรับเล่นเกม เจ๋งมั้ยล่ะ!
2. การ์ดจอต่อภายนอก External Graphic
เป็นเทคโนโลยีต่อยอดมาจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเป็นรูปร่างมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ใครที่เล่นเกมบนพีซีหรือโน้ตบุ๊กน่าจะได้ติดตามข่าวกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Razer Core, Power Color Devil Box, XG Station 2 ซึ่งถ้ายังนึกภาพไม่ออก อุปกรณ์ดังกล่าวนี้จะช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมได้ดีขึ้น ซึ่งในเวลานี้มีให้เลือกนับ 10 รุ่นเลยทีเดียว แต่ราคายังสูงอยู่พอสมควร
3. แว่น VR
เป็นอะไรที่เรียกว่าเข้ามาให้เราได้สัมผัสกันราว ๆ 2 ปี แต่ในปี 2017 นี้จะได้ใช้กันอย่างจริงจังแน่นอน เพราะเริ่มลงตัวตั้งแต่คอมพิวเตอร์ที่สนับสนุน VR ไปจนถึงหน้าจอแสดงผลที่เป็น VR Ready อีกด้วย ซึ่งถ้าว่ากันตามความสนุกแล้ว VR ให้ความสมจริงในการเล่นและสร้างความตื่นเต้นได้มากกว่า ที่สำคัญปัจจุบันมีเกมสำหรับ VR เปิดตัวอยู่มากมาย ทั้งที่ฟรีและมีค่าใช้จ่าย VR Glass นี้มีให้เลือกหลายค่าย อาทิ Oculus Rift หรือ HTC Vive เป็นต้น
4. ชุดสำหรับ VR
VR Suit
ต่อยอดจากความมันสำหรับ VR นอกจากจะได้มองเห็นด้วยสายตาแล้ว เรื่องของการสัมผัสและการเคลื่อนไหวก็เป็นสิ่งจำเป็น ทั้งในเรื่องของการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว ความปลอดภัยในระหว่างการเล่นและความสมจริง ดังนั้นชุดสำหรับการเล่น VR จึงน่าจะใกล้เข้ามาให้เราได้ใช้กันอย่างจริงจังในปี 2017 นี้ นอกเหนือจากแว่น VR ที่ใช้กันอย่างเต็มรูปแบบ ตัวอย่างเช่นชุดจาก HaptX Skeleton นี้
5. หน้าจอความละเอียดสูง (4K) เป็นมาตรฐาน
ความละเอียด Full-HD ที่เป็นพื้นฐานในวันวาน วันนี้ก้าวสู่ความละเอียดระดับ 4K อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น สังเกตได้จากคอนเทนต์ต่าง ๆ รวมถึงมอนิเตอร์ที่ล้วนขยับความละเอียดไปที่ 4K กันมากขึ้นทุกขณะ เช่นเดียวกับการสนับสนุนของฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์ และยังมีอุปกรณ์ประเภท PC Stick หรือ TV Box มาให้ได้เลือกกันมากมายในตอนนี้ ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการใช้งานบนหน้าจอแบบ 4K มากขึ้น
6. อุปกรณ์ส่วนใหญ่มาพร้อมไฟ LED RGB
เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่เน้นไปทางแฟชั่นมากกว่า เพราะเวลานี้จะหันมองไปทางไหน ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า RGB LED นี้ ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ คีย์บอร์ด หูฟัง เมนบอร์ด เคส หรืออุปกรณ์ที่เป็น Accessories อื่น ๆ ก็ล้วนแต่เรืองแสงสวยงามด้วยกันทั้งสิ้น ใครที่ชอบแสงเรืองรองสว่างสดใสในตอนเล่นเกม เตรียมตัวกันได้เลย
7. สนุกกว่า ด้วยอากาศยานไร้คนขับ
หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าโดรน (Drone) ต้องถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย แม้ในช่วงแรกจะดูเป็นของเล่นที่ใช้ยากและสิ้นเปลือง แต่สนนราคาที่เริ่มต้นเพียงหมื่นกว่าบาท ก็ทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจ นอกจากนี้บางรุ่นถูกออกแบบให้เล็กลงเหลือประมาณฝ่ามือ จะถือออกมาบินตอนไหนก็ยังได้ ที่สำคัญเวลานี้มีการจัดแข่งขันบินจริง พร้อมใส่แว่นที่มองเห็นเสมือนเป็นคนขับมีแชมป์ระดับโลกเป็นเดิมพัน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า โดรนได้กลายมาเป็นของเล่นที่ดูจริงจังไปแล้วสำหรับปีนี้
8. โน้ตบุ๊กการ์ดจอคู่ พลังทะลุขีดจำกัด
เรื่องของโน้ตบุ๊กมาบ่อยหน่อย เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งของใช้ภายในบ้าน หลายคนเลือกมาใช้แทนเครื่องพีซี ก็ต้องเลือกใช้ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การ์ดจอตัวเดียวคงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป โน้ตบุ๊กบางรุ่นกลายเป็น Desktop Replacement เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และโน้ตบุ๊กเกมมิ่งหลายรุ่นมาพร้อมกราฟิกการ์ด 2 ตัวในเครื่องเดียวและทำงานคู่กัน ส่งผลให้เกมเมอร์สามารถสนุกกับเกมได้มากขึ้น ด้วยความลื่นไหลจากเฟรมเรตที่หลายคนต้องทึ่งเลยทีเดียว เช่น MSI GT83VR 6RF TITAN SLI ที่มาพร้อมกราฟิก nVIDIA GTX 1080 8GB GDDR5X SLI แรงแน่นอน
9. แฟลชไดรฟ์กลายเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมหึมา
แม้ว่าเวลานี้จะมีตัวเลือกในการจัดเก็บข้อมูลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น HDD ที่มีมากกว่า 4TB หรือจะเป็น Cloud Storage ที่เลือกใช้ได้ทั้งฟรีหรือจ่ายเงิน แค่ต่อเน็ตก็โอนถ่ายไฟล์ร่วมกันได้แล้ว แต่สำหรับในหลาย ๆ บ้าน ยังคงพึ่งพาแฟลชไดรฟ์ เรียกว่าอันเดียวหมุนกันใช้ทั้งบ้าน เพราะสะดวก ไม่ยุ่งยาก ไม่ว่าจะเป็นไฟล์แบบใดก็เอาอยู่ สำหรับในปี 2017 นี้ การแข่งขันด้านความจุ ไม่ใช่ความจุแค่เพียง Gigabyte เท่านั้น แต่จะมากถึง Terabyte (1000GB) ซึ่งให้ผู้ใช้ใส่ข้อมูล เพลง วิดีโอ และอื่น ๆ สำหรับพีซี โน้ตบุ๊กหรือแม้กระทั่งจอทีวีกันได้อย่างจุใจ เช่นแฟลชไดรฟ์ Kingston DataTraveler® Ultimate Generation Terabyte (GT) ที่มีความจุให้เลือกถึง 2TB เลยทีเดียว