พี่มิ้งค์ คอมทูเดย์ “น้องๆ อาจไม่ต้องทำให้ครบทั้ง 6 วิธี อาจเลือกทำแค่วิธีใดวิธีหนึ่ง ก็สามารถช่วยให้คอมพ์ เร็ว แรงได้ครับ”
//นาย สยามเมืองยิ้ม
ทิปนี้มากันเป็นแพ็ก หลายข้อ หลายวิธี เพื่อไม่ให้เสียเวลามาเริ่มลงมือกันเลยครับ
1. ปรับแต่ง Performance : โดยเป็นการตั้งค่า Virtual Memory ของระบบที่เหมาะสม โดยเริ่มจากการคลิกเมาส์ขวาที่ My Computer บนเดสก์ทอป เลือก Properties และเลือก Advanced ในช่อง Performance กดที่ปุ่ม Settings -> Advanced และด้านล่างเลือกกดที่ปุ่ม Change เปลี่ยนค่าของ Virtual ให้เป็นแบบ Custom size และกำหนดไว้ที่ 512-512 แล้วกด OK
2. ปรับแต่ง Startup and Recovery : เป็นการกำหนดขั้นตอน เมื่อระบบวินโดวส์เริ่มต้นทำงาน และการกำหนดการกระทำ เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นให้เหมาะสม ให้คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer เลือก Properties เลือก Advanced ในช่อง Startup and Recovery กดที่ปุ่ม Settings ยกเลิกการเครื่องหมายถูกใต้ช่อง System failure ออกให้หมด (สำหรับเครื่องหมายถูกด้านบนใต้ช่อง System Startup ให้ปล่อยไว้ตามเดิม เนื่องจากเป็นการกำหนดการเลือกบูตวินโดวส์แบบหลายระบบ หรือถ้าหากเครื่องนั้น ลงระบบวินโดวส์ไว้แค่ตัวเดียว ไม่ได้ใช้ลูกเล่นนี้ก็เอาออกไปได้เช่นกันครับ) จากนั้น OK
3. ปรับแต่ง Error Reporting : เป็นการกำหนดวิธีการรายงานข้อผิดพลาด ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานอะไร ก็จัดการยกเลิกการทำงานส่วนนี้ซะเลย โดยทำการ คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer เลือก Properties เลือก Advanced ที่ด้านล่าง ให้กดที่ปุ่ม Error Reporting เลือกช่อง Disable error reporting ติ๊ก But notify me when critical occur กด OK
4. ปิด System Restore ไม่ให้เปลืองฮาร์ดดิสก์ : เป็นการปิดการทำงานของระบบ System Restore หรือระบบย้อนเวลากลับของวินโดวส์ เช่น ถ้ามีการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงไปในเครื่อง แล้วเกิดเปลี่ยนใจหรือว่าซอฟต์แวร์ตัวนั้น ไปสร้างปัญหาให้กับระบบ เราก็สามารถย้อนเวลากลับไป ณ.วันที่หรือเวลาที่เราต้องการได้ แต่เนื่องจากการที่จะสามารถ ย้อนเวลากลับไปได้นั้นวินโดวส์จะต้องใช้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ส่วนหนึ่งในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ด้วย ตรงนี้แหละที่เรียกว่า System Restore ซึ่งถ้าหากไม่ต้องการใช้งานระบบในส่วนนี้ ก็จัดการปิดการทำงานไปซะดีกว่า โดยคลิกเมาส์ขวาที่ My Computer เลือก Properties เลือก System Restore ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Turn off System Restore on all drive แล้วกด OK
5. การปิดการทำงาน Remote Desktop : โดยเป็นการปิดการทำงานของการใช้งาน Remote Desktop หรือการทำ Remote จากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง โดยปกติเราจะไม่ได้มีการใช้งานส่วนนี้อยู่แล้ว ปิดไปเลยดีกว่าครับ โดยให้คลิกเมาส์ขวาที่ My Computer เลือก Properties เลือก Remote เอาเครื่องหมายถูกออกไปให้หมดเหมือนภาพด้านบน และกดที่ปุ่ม OK
6. ลบไฟล์ prefetch : เนื่องจากอาจมีไฟล์บางไฟล์ในโฟลเดอร์ prefetch เสียหาย แต่เรามีวิธีการแก้ไขได้อย่างง่ายๆ ก็คือ ให้เข้าไปที่ c:\windows\prefetch ให้ลบไฟล์ทุกไฟล์ในโฟลเดอร์ทิ้งให้หมด ด้วยคำสั่ง Ctrl + A (เลือกทุกไฟล์) แล้วกด Del (ลบไฟล์) หลังจากบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง คุณก็จะพบว่าคอมพ์ของคุณทำงานได้รวดเร็วขึ้นพอสมควรเลยล่ะจบแล้วครับ….อย่าลืมเรื่องที่ขอร้องน่ะครับ.. (หนาวครับอยากได้เสื้อ.. “อุ่นกาย”… )