4 สัจจะธรรมแห่งความโลภ บทเรียนดีๆ ที่ได้จากกล้องฟิล์ม

ในวันที่เงียบสงบไร้ผู้คน  ได้มีสายลมอ่อนๆโชยเข้ามาในบ้าน  บ้านที่เต็มไปด้วยความตระกละของชายคนหนึ่งนาม “แมมมอน”  ผู้ที่กระหายความต้องการทุกอย่างที่ตนอยากได้  เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปและในตอนนั้นเอง  ที่ทำให้แมมมอนได้พบกับอะไรบางสิ่ง  ที่ทำให้ถึงกับต้องแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจราวกับปีศาจก็ไม่ปาน  และนั่นก็คือ”ความงดงาม”อย่างหาที่เปรียบมิได้

 

Tam
ความโลภ  ความตระกละที่ไม่สิ้นสุด  จนไม่มีสิ่งใดมาเติมเต็มได้  แต่บัดนี้  แมมมอนได้ให้ความสนใจกับความงดงามของภาพที่ถูกถ่ายโดยกล้องรุ่นเก่าอย่าง ”กล้องฟิล์ม”  ทำให้เกิดความสนใจและสงสัยอย่างยิ่งว่า”ทำไมมันถึงได้งดงามเช่นนี้?  ทำไมตนเองถึงไม่สามารถถ่ายให้งดงามเช่นนั้นได้  ทั้งๆที่ตนเองได้ใช้กล้อง DSLR รุ่นใหม่ล่าสุด  แถมฝีมือหรือมุมมองนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครบนโลก” มันเป็นคำถามที่ทำให้แมมมอนไม่สบายใจอย่างมาก  และด้วยความโลภที่มากมาย  ทำให้เขาอยากจะครอบครองความงดงามนั้นไว้ตลอดกาล เขาถึงกับศึกษาหาวิธีการ  ที่ทำให้ภาพงดงามด้วยอุปกรณ์(กล้องฟิล์ม)ที่เหมือนกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน  จนได้บทเรียนหลายๆอย่าง

…..

…..

…..

บทเรียนแรก:    ความทรงจำที่มิอาจลบเลือน
บนโลกใบนี้  ไม่ว่าจะใครก็ไม่สามารถลบความทรงจำได้อย่างแน่นอน  เปรียบเทียบได้กับ ”กล้องฟิล์ม” ที่เมื่อไหร่ที่ได้กดชัตเตอร์ไปแล้ว  ก็ไม่สามารถลบภาพที่พึ่งถ่ายออกไปได้เช่นกัน  ซึ่งนั่นเป็นข้อดีสำหรับคนที่มีนิสัยเสียที่เมื่อถ่ายภาพเสร็จ 1 ภาพ  ก็จะต้องเปิดดูก่อนว่าภาพนี้งดงามหรือไม่  การกระทำเช่นนี้อาจจะทำให้เสียจังหวะในการเก็บภาพที่งดงามอย่างที่สุดก็เป็นได้

 

บทเรียนที่สอง:   ความโลภที่กัดกินกับความตั้งใจที่แข็งแกร่ง
อย่างที่รู้ “กล้องฟิล์ม” ไม่สามารถลบหรือดูรูปได้  ทำให้การถ่ายภาพต้องมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นเนื่องจากต้องคิดถึงสิ่งที่ได้และสิ่งที่เสียไปว่ามันคุ้มค่ากันหรือไม่  ไม่ใช่เอาแต่โลภมากถ่ายเอาเยอะเข้าว่าจนมีแต่รูปสั่วๆหาดีไม่ได้ ฉะนั้น  การจะถ่ายภาพทุกภาพเพื่อให้ได้รูปที่งดงามดั่งที่ประสงค์  เราต้องอย่าปล่อยให้ความโลภมากัดกินจิตใจที่ตั้งใจ  มิเช่นนั้นก็จะไม่มีทางได้สิ่งที่ตั้งใจแม้ความโลภจะมีมากมายแค่ไหน

 

บทเรียนที่สาม:   ความงดงามที่ใฝ่ฝัน
ทุกๆคนมีความโลภหมดทุกคน  และความโลภของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน  ในกรณีของแมมมอนนั้นคือความงดงามของภาพที่เป็นธรรมชาติ  ไม่มีการแต่งเติมใดๆ  ซึ่งหาได้จากกล้องฟิล์มที่มีความละเอียดเหมือนกันหมดเพราะเป็น “ฟูลเฟรม” ที่ทำให้ภาพมีความละเอียด งดงาม สมจริง เป็นธรรมชาติและถึงแม้ปัจจุบันจะมี ”กล้อง DSLR” ที่เป็นฟูลเฟรมแล้ว  แต่ราคานั้นแสนแพง  ไม่เหมาะกับความโลภของแมมมอนที่เอาแต่ได้เพียงอย่างเดียว

 

บทเรียนที่สี่:  การเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่งดงาม
แมมมอน  ถึงจะเป็นชายที่มีความโลภอย่างไร้ขีดกำจัด  แต่ในเรื่องการถ่ายภาพก็ยังติดอยุ่กับกรอบเดิมๆ  อย่างการถ่ายภาพที่ภาพนั้นจะต้องคมชัด  สีไม่เพี้ยน  ไม่เบลอ  ซึ่งหากได้สัมผัสกับการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มที่ไม่สามารถวัดแสงได้  อาจทำให้มีการตั้งค่าที่ผิดเพี้ยน  แต่ในบางทีถ้าออกนอกกรอบบ้าง  รูปที่เกิดจากการตั้งค่าที่ผิด  อาจจะมีมิติที่สวยงามอย่างบังเอิญก็ได้

 

สี่บทเรียนของกล้องฟิล์ม  ได้เติมเต็มสิ่งที่แมมมอนขาดหายไป   นั่นคือการมองโลกที่ย้อนกลับเพราะมนุษย์เราทุกๆคนล้วนแต่ตามหาสิ่งใหม่เพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่ขาด  โดยไม่หยุดที่จะหันกลับมามองตนเองว่า จริงๆแล้วตัวเราไม่ได้ขาดอะไรเลย  เพียงแต่เรามักมองไปข้างหน้าจนบางทีลืมมันไป

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here