[ฟองสบู่ AI ?] ในตลาดฮาร์ดแวร์ AI ขั้นสูง ผู้นำของวงการนี้ย่อมไม่พ้น Nvidia ที่นับวันมีแต่ทุบสถิติรายได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่นานมานี้บริษัทกลับเสียมูลค่าการตลาดไปถึง 279,000 ล้านดอลลาร์ฯ ภายในวันเดียว นับเป็นการเสียมูลค่าที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของบริษัททั้งหลายในสหรัฐฯ ด้วย
เผยหุ้น Nvidia ร่วงลงมากกว่า 9% เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เกิดชะลอตัวอย่างหนัก และนักลงทุนเริ่มมองว่า AI ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเติบโตเพิ่มเติมได้ เสมือนเป็นฟองสบู่ ส่งผลให้บริษัทเสียมูลค่าการตลาดไปถึง 2.79 แสนล้านดอลลาร์ฯ ทำลายสถิติบริษัทเจ้าของ Facebook อย่าง Meta ที่เคยเสียมูลค่าการตลาดไป 2.32 แสนล้านดอลลาร์ฯ ภายในวันเดียวเช่นกัน
ด้าน Bloomberg รายงานว่า Nvidia ได้รับหมายเรียกจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ มาสอบสวนเรื่องการผูกขาดตลาดชิปประมวลผล จนทำให้หุ้นร่วงลงอีก 2.4% ทว่าทาง Nvidia เผยไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าว
การการเติบโตของ Generative AI ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ในลักษณะที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เหมือนสมัยตอนที่โลกมี WWW เป็นครั้งแรก มีหลายบริษัทต่างทุ่มงบมหาศาล เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและเข้าสู่ตลาด AI นี้ให้ได้ ขณะเดียวกัน Nvidia ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
ทว่าหากมองฝั่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ กลับมองในแง่ลบ ทั้งเรื่องการถูกแทนที่ หรือมองเป็นภัยคุกคามไปเลย อีกส่วนคือไม่สนใจ จนทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่ามันให้ผลตอบแทนช้าแล้ว ซึ่งมีรายงานน่าสนใจในเดือนกรกฎาคม เผยพบบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องสร้างรายได้ถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อปี เพื่อให้คุ้มกับงบลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ AI และยังรวมไปถึงเรื่อง ‘ความยั่งยืน’ ในอนาคต ที่ต้องหาพลังงานมหาศาล มาช่วยให้ AI ประมวลผลได้นั่นเอง
ที่มา : Techspot