7. ชวนตั้งก๊วน มาร่วมกันลงขันทำบุญ
เรื่องความใจบุญกับคนไทย เป็นเหมือนของคู่กัน ซึ่งก็กลายเป็นช่องทางหากินของมิจฉาชีพทั้งหลายด้วย บางคนแอบอ้างว่ามีหน้าที่ใหญ่โต หรือบางคนอาศัยความเชื่อความศรัทธาของผู้คนโอนเงินเข้ามาทำบุญ หรือบางครั้งก็อ้างว่าจะสร้างโบสถ์ สร้างพระหรือหนังสือธรรมะ เพื่อถวายที่นั่นที่นี่ โดยพื้นฐานของคนทำบุญ ส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่เคยตรวจเช็กที่มาที่ไปหรือไม่ได้ติดตามผล ว่าที่สุดแล้วมีการจัดสร้างตามที่ว่าไว้หรือไม่ เรื่องนี้หากไม่แน่ใจ ก็ให้ลองตรวจเช็กคนที่ตั้งรับบริจาคให้มั่นใจเสียก่อน
8. ชวนไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วหลอกให้โอนเงิน
เป็นอีกหนื่งรูปแบบการหลอกลวงโดยใช้ช่องทางของโซเชียลมีเดีย ในกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง เป็นการหลอกด้วยการใช้ชาวต่างชาติ เจาะกลุ่มคนทื่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ หรือคนสูงอายุที่ใช้โซเชียลมีเดียในการหาเพื่อน ซึ่งมักจะใช้วิธีตีสนิท แล้วออกอุบายว่าจะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ไปเที่ยว หรือบางครั้งจะใช้วิธีการว่าจะส่งของขวัญมาให้ ซึ่งมีการส่งหมายเลขพัสดุมาแล้ว แต่ติดอยู่ที่นั่นที่นี่ เลยขอโอนเงินเพื่อไปเคลียร์ให้ก่อน ซึ่งเมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะโอนเงินไปให้ บางรายอาจมียอดเงินโอนที่สูงมาก ซึ่งโอกาสที่จะได้รับของหรือเงินคืนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
เคสตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ มีรายงานเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังอาละวาดฉ้อโกง หลอกลวงคนต่างชาติ โดยเฉพาะผู้หญิงไทยให้โอนเงินไปให้ ใช้วิธีต้มตุ๋นผ่าน Social Network เป็นสื่อ อ้างตัวว่าเป็นชาวอังกฤษ หลังจากติดต่อได้แล้วจะขอเบอร์โทรศัพท์และโทรมาพูดคุย แรกๆ ก็คุยเรื่องทั่วไปจนเหยื่อตายใจ จากนั้นจะทำเป็นบอกว่าจะส่งของมีค่ามาให้ แต่ภายหลังบอกว่าถูกศุลกากรกักไว้ ขอให้ส่งเงินไปชำระค่าธรรมเนียมในการเคลียร์ของ โดยให้โอนครั้งละ 1-2 พันเหรียญ และจะบอกว่าไม่พอต้องจ่ายเพิ่มไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้ แก๊งนี้จะโทรเข้ามาหาเหยื่อและพูดคุยอย่างดีและสุภาพ คะยั้นคะยอว่าเสียดายของที่ส่งมาให้ เนื่องจากมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 2-3 แสนบาท ทำให้เหยื่อใจอ่อนโอนเงินไปให้ 2-3 ครั้ง บางรายสูญเงินไปกว่า 5 แสนบาท มีหญิงไทยถูกหลอกในลักษณะนี้กว่า 20 ราย
