สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา LINE ประเทศไทย นำโดย คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประจำประเทศไทย ได้แถลงถึงทิศทางของ LINE 2016 ที่จะเป็นมากกว่าแอปพลิเคชั่นแชท พร้อมก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ธุรกิจในทุกเรื่อง
ในรายงานสรุปผลประกอบการของ LINE ทั่วโลก ในปี 2015 ระบุว่า สามารถทำรายได้ถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตจากปี 2014 ถึง 40% นอกจากนี้ YouGov บริษัทผู้ให้บริการวัดข้อมูลพื้นฐานของความแข็งแกร่งของแบรนด์ ยังจัดอันดับให้ LINE เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจาก Facebook โดยประเทศไทยในช่วงปี 2015 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ LINE ถึง 33 ล้านคน เป็นรองแค่ญี่ปุ่น ประเทศเดียวเท่านั้น
สำหรับใน 2016 นี้ LINE ได้ชี้ 4 เทรนด์ ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับคนไทยในยุคสังคมดิจิตอล ได้แก่
1. Mobile First
จากปี 2015 ที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูง 40 ล้านคน และผลพวงจากอินเทอร์เน็ต 4G LINE คาดการณ์ว่าในปี 2016 จะมีผู้มีผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 50 ล้านคน ซึ่งพฤติกรรมของผู้ใช้ LINE จำนวน 33 ล้านคน แบ่งได้ดังนี้
-การส่งรูปภาพ 114%
-การส่งวีดีโอ 85%
-การส่งสติ๊กเกอร์ 52%
-การรับส่งข้อความทั่วไป 52%
-คนไทยใช้เวลากับ LINE ถึง 84 นาที ต่อวัน
2. สมาร์ทโฟน จะเป็นเสมือนจอทีวี
41% ของคอนเทนต์ทีวีและวีดีโอชมผ่านหน้าจอทีวี ในขณะที่ 31% ชมผ่านสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ 80% ของคอนเทนต์ที่แสดงอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่เป็นคอนเทนต์จากทีวี
3. m-commerce และ social commerce
อัตราการการเติบของธุรกิจประเภท E-Commerce ในปี 2015 พุ่งสูงถึง 60% และ LINE เชื่อว่าในปี 2016 จะโตขึ้นอีก 33% โดยแนวโน้มของการซื้อสินค้าออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายผ่านสมาร์ทโฟน และเกิดการชำระเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งมากขึ้น
4. บริการแบบ O2O
ความหมายของ O2O เป็นความเชื่อของ LINE ภายใต้แนวคิด “Apps within an App” เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ โดยใช้สื่อออนไลน์ผลักดันให้เกิดทราฟฟิกหรือยอดขายทางออฟไลน์ ซึ่ง LINE จะยกระดับแพลตฟอร์มให้เป็นกลายช่องทางสำหรับการเข้าถึงบริการต่างๆ แทนที่ของการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่มีอยู่มากมายมหาศาล เพื่อให้ผู้คนได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในการใช้บริการต่างๆ โดยการพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นภายใต้การพัฒนาของนักพัฒนาไทย, เกิดจาก LINE พัฒนาขึ้นเอง รวมไปถึงความร่วมมือกับ Startup ในเมืองไทย เพื่อนำนวัตกรรมสู่ผู้บริโภค
สำหรับด้านธุรกิจ LINE ยังตั้งเป้าหมายที่จะทำให้แพลตฟอร์มสามารถช่วยธุรกิจ และแบรนด์ต่างๆ ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น ด้วยการรวบรวมบริการหรือแอปมาไว้ในที่เดียวกัน ในขณะเดียวกัน LINE ยังพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ทั้งในรูปแบบของการสร้างแบรนด์, ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดต่อกับลูกค้าได้แบบตัวต่อตัว, ช่วยสร้างยอดขาย และสนับสนุนการคิดค้นวัตกรรมใหม่ๆ
นอกจากนี้ LINE จะแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่อง “Business Connect” ด้วยการ Open API หรือการเปิดระบบให้ธุรกิจ หรือแบรนด์ สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาบริการที่เหมาะสมกับลูกค้าของตนเองอีกด้วย
ในด้านการสนับสนุนธุรกิจประเภท SME ที่อาจมีงบประมาณจำกัดสำหรับการประกอบธุรกิจ ทาง LINE พร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่ทำให้ SME สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายที่สุด ยกตัวอย่าง การเปิดให้บริการ LINE@ เป็นต้น