ในขณะที่หลายธุรกิจยอมรับแล้วว่า ChatGPT มีส่วนช่วยให้พนักงานของพวกเขามีความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น แต่นั่นก็ต้องยอมรับว่า ข้อมูลบางส่วนของบริษัทอาจหลุดไปถึง OpenAI ที่เป็นผู้ควบคุม ChatGPT และอาจหลุดไปถึงมือ Hacker ที่สามารถขโมยแอคเค้าท์ของเราไปได้
ล่าสุด Samsung ได้สั่งให้พนักงานของตัวเองห้ามใช้ ChatGPT เด็ดขาด เพราะกลัวข้อมูลตัวเองหลุด … ทีนี้ ต้องมาทำความเข้าใจก่อนนะว่า เวลาเราใช้งาน ChatGPT มันจะมีประวัติการใช้แชท ซึ่งแฮกเกอร์ที่ขโมยบัญชีไป ก็สามารถเข้ามาดูประวัติการแชทได้ และรู้ว่า เราคุยอะไรกับ AI
ไม่นานมานี้ บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Group-IB มีการตรวจพบบัญชีที่ใช้ล๊อกอิน ChatGPT กว่า 100,000 รายการ ถูกปล่อยขายบน DarkWeb และในเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียว มีบัญชีถูกขโมยมากกว่า 26,802 บัญชี (เอาไปได้ยังไง เยอะขนาดนั้น)
จากข้อมูล บัญชีมักถูกขโมยผ่านแคมเปญการโจมตีแบบฟิชชิ่ง เช่น รหัสที่ถูกบันทึกไว้บนเบราว์เซอร์ ประวัติการท่องเว็บ หรือการส่งลิงก์หลอกลวงให้ใส่รหัสผ่าน (ซึ่งก่อนหน้านี้เจอโฆษณาใน Facebook เยอะมากที่เป็น ChatGPT ปลอม)
ฉะนั้น ใครที่ใช้งาน ChatGPT เป็นประจำแล้วซีเรียสกับข้อมูล ลบประวัติ Chat บ้างก็ดีนะครับ หรือสามารถตั้งให้มันลบประวัติทุก ๆ 30 วันก็ทำได้นะ