หนึ่งในคำถามหลายคนกังวลและพบบ่อยที่สุดคือ ปัจจุบันนี้ ความสามารถของ AI นั้นไปถึงขั้นไหนแล้ว และมันเข้ามาแทนงานที่เราทำได้แล้วหรือยัง
จริง ๆ แล้วมีข้อมูลจากต่างประเทศหลากหลายอาชีพมากครับ แต่ผมได้พยายามคัดเลือกแต่ละอาชีพที่มีความเป็นไปได้กับประเทศไทยมากที่สุดมาให้ลองอ่านกัน ลองมาสำรวจอาชีพที่ AI อาจเข้ามาแทนที่หรือเปลี่ยนแปลงในเร็ว ๆ นี้กันครับ
1.Data Entry Clerk หรือพนักงานป้อนข้อมูล
ในยุคหนึ่งที่หลายธุรกิจรวมทั้งองค์กรรัฐ ต่างพยายามสร้างข้อมูลดิจิทัลขึ้นมา ด้วยการป้อนข้อมูลต่าง ๆ ลงไปในระบบ แต่งานเหล่านี้ กำลังถูกแทนที่ด้วย AI เพราะระบบสามารถประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำกว่า ข้อผิดพลาดน้อยกว่า และทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ไม่ยาก
2. Translator หรือนักแปลภาษา
หากใครเคยใช้ Google Translate เมื่อสิบปีก่อน กับปัจจุบัน จะรู้เลยว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ระบบมีการพัฒนาการแปลให้เราอ่านเข้าใจมากขึ้น แต่หากยังไม่โดนใจ AI อย่าง Gemini หรือ ChatGPT ก็เรียบเรียงประโยคให้อยู่ในบริบทของภาษาไทยหรือยังสามารถใส่อารมณ์ขัน เข้าในเนื้อหาได้อีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่า AI มีผลกระทบต่ออาชีพนี้พอสมควร แต่หากเป็นการแปลภาษาด้วยภาษาราชการ หรือภาษาที่มีบริบทเฉพาะ AI อาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่าครับ
3.Security Guard หรือ พนักงานรักษาความปลอดภัย
ไม่เคยคิดใช่ไหมว่า อาชีพยามจะโดน AI แทนที่เหมือนกัน โดยปัจจุบัน ระบบกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย AI สามารถตรวจจับภัยคุกคามและแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็ว โดยอาจมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ในห้องควบคุมเพียงคนเดียว และรอให้ AI ส่งข้อมูลเข้ามาให้ตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัท Hyundai Motor Group ได้นำหุ่นยนต์สุนัข Spot ของ Boston Dynamics มาใช้งานในโรงงานในเกาหลีใต้ เพื่อตรวจจับคนเข้ามาในพื้นที่อันตราย ตรวจสอบอุณหภูมิสูงและความเสี่ยงจากไฟไหม้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบการเปิด-ปิดประตู และส่งภาพและข้อมูลที่ตรวจพบไปยังศูนย์ควบคุมได้แบบเรียลไทม์ เปรียบเสมือนเป็นกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่และรายงานสถานการณ์ได้ทันที ซึ่งแนวโน้มเช่น มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอย่างมากครับ
4.Market Research Analyst หรือนักวิเคราห์การตลาด
สำหรับนักวิเคราะห์การตลาดแล้ว ข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัยอย่างมาก และนั่นทำให้มีโอกาสถูก AI แทนที่ด้วยเหตุผลหลายอย่างเลย ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความสามารถของ AI ในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและทำงานที่ซ้ำซากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ AI ยังสามารถเรียนรู้และปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ได้อย่างต่อเนื่อง
AI สามารถใช้ข้อมูลในอดีตและปัจจุบันเพื่อสร้างแบบจำลองการทำนายและคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5.Proofreader หรือผู้ตรวจสอบเอกสาร
AI สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเอกสารได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ เช่น การตรวจสอบตัวเลข วันที่ และข้อมูลอื่นๆ ที่มีรูปแบบเฉพาะ นอกจากนี้ AI ยังสามารถตรวจจับความผิดพลาดที่อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือความไม่ตั้งใจของมนุษย์ได้
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบความสอดคล้องของข้อมูลในเอกสารต่างๆ ได้ เช่น การตรวจสอบว่าข้อมูลในใบแจ้งหนี้ตรงกับข้อมูลในใบสั่งซื้อหรือไม่ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดและความไม่สอดคล้องกันของข้อมูลให้อีกด้วยครับ
6.Journalist หรือนักข่าว
ผมเองค้าบ !! เศร้าเลย โดย AI สามารถสร้างข่าวเกี่ยวกับหัวข้อที่เป็นข้อเท็จจริงหรือมีรูปแบบที่ชัดเจนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น รายงานผลการแข่งขันกีฬา รายงานสภาพอากาศ หรือรายงานผลประกอบการของบริษัท ซึ่งช่วยลดเวลาและทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตข่าว
นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อค้นหาประเด็นข่าวที่น่าสนใจและมีความสำคัญ และยังสามารถแปลจากภาษาหนึ่ง ไปอีกภาษาหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วยลดขั้นตอนการผลิตเนื้อหาลงไปได้มาก
7. Factory Worker หรือพนักงานโรงงาน
ต้องยอมรับว่า ในการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น หลายบริษัทจำเป็นต้องลดทุนต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือการนำระบบ Automation เข้ามาช่วย ทั้งการใช้หุ่นยนต์และ AI ทำงานที่ซ้ำซากและเป็นอันตรายในโรงงาน ใช้ตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานเพื่อคาดการณ์การเกิดข้อบกพร่องหรือความเสียหายล่วงหน้า
นอกจากนี้ AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตเพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ เช่น การปรับปรุงขั้นตอนการผลิต การจัดสรรทรัพยากร และการจัดตารางการทำงาน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต แต่จะทำได้ขนาดนี้ ก็ต้องพึ่งพาข้อมูลที่มากพอเช่นกัน
8.Retail Salesperson หรือพนักงานขายปลีก
คิดว่าหลายคนน่าจะพอเห็นว่า ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เริ่มมีการนำระบบชำระเงินอัตโนมัติเข้ามาใช้งานบางสาขาบ้างแล้ว ทำให้ช่วยลดความจำเป็นที่ต้องมีพนักงานคอยคิดเงิน
AI ยังสามารถช่วยจัดการข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถติดตามจำนวนสินค้าคงเหลือ คาดการณ์ความต้องการสินค้า และสั่งซื้อสินค้าใหม่ได้โดยอัตโนมัติ ลดความจำเป็นในการมีพนักงานคอยตรวจสอบ
นอกจากนี้ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขายและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มยอดขายและลดความจำเป็นในการมีพนักงานขายคอยให้คำแนะนำ
9. Customer Service Representative หรือ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า
ส่วนตัวยังเชื่ออยู่นะว่า คนเรายังชอบคุยกับคนเหมือนกันมากกว่า แต่หาก AI มันฉลาดขึ้นล่ะ … ปัจจุบัน Chatbot และ Virtual Assistant มีความล้ำหน้ากว่าเดิมขึ้นมาก และหลายบริษัทเริ่มนำมาใช้จริงหลายปีแล้ว
แชทบอท AI สามารถตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถตอบคำถามที่พบบ่อยหรือ FAQ ได้อย่างรวดเร็ว แต่หากมีปัญหาที่แอดวานซ์มาก ๆ ก็ส่งเรื่องต่อไปยังเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉาะแทน แน่นอนว่าธุรกิจสามารถลดต้นทุนเรื่องนี้ลงไปได้มาก
10.Loan Officers หรือเจ้าหน้าที่ปล่อยสินเชื่อ
สำหรับอาชีพนี้ มีโอกาสถูก AI แทนที่ในบางส่วนของงาน แต่ยังไม่สามารถถูกแทนที่ได้ทั้งหมด เนื่องจากงานของเจ้าหน้าที่สินเชื่อ มีความซับซ้อนและต้องใช้การตัดสินใจที่ละเอียดอ่อน
โดยงานบางส่วนที่จะถูกแทนที่คือ การประเมินความเสี่ยง โดยจะสามารถข้อมูลทางการเงินของผู้กู้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้หรือความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม ในระดับสินเชื่อขนาดเล็ก หรือ Micro Finance มีโอกาสที่จะถูก AI แทนที่ได้ 100% เพราะการอนุมัติสินเชื่อที่มีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน สามารถทำได้อย่างอัตโนมัติและรวดเร็ว ซึ่งล่าสุด เราก็ได้เห็นตัวอย่าง SCB มีการใช้ AI อนุมัติการขอสินเชื่อรายย่อยแบบ 100% แล้ว