10 แอป ทำงานที่บ้าน ให้ได้งานแบบ Super Productive

ช่วงหนีไวรัส หลายบริษัทเริ่มให้พนักงานทำงานที่บ้าน แต่ไม่วายเจ้านายก็ยังแอบหวั่นใจว่าประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงไม่เหมือนอยู่ออฟฟิศได้เห็นหน้า พูดคุย มองตากัน หรือเปล่า

Techhub เลยรวบรวม เทคโนโลยีที่จะช่วย Work at Home ได้แบบ Super Productive ได้ผลงานดี แบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็เวิร์คได้ มาแชร์กัน

กับ 10 แอป Work at Home ที่คัดมาแล้วว่าเวิร์คจริง!

 

1. วีดิโอคอล คุยงานเป็นทีม

อุปสรรคใหญ่ของการทำงานที่บ้านคือการสื่อสารระหว่างทีมที่หายไป ถึงแม้จะแชตคุยกันได้ แต่ข้อความก็ไม่สามารถสื่อความหมายได้ดีเท่ากับภาพและเสียง ยื่งต้องคุยงานกันเป็นทีมด้วยแล้วละก็ แอปวีดีโอคอลอย่าง Hangout ยังคงเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ เพราะสามารถคุยงาน หรือประชุมทีมพร้อมกันถึง 10 คน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพียงแต่เน็ตต้องแรง ภาพและเสียงที่ออกไปจะได้ไม่ดีเลย์

App : Hangout

 

2. ตั้งวงแชต แบบมือโปร

โปรแกรมสนทนายอดฮิต ที่สามารถสร้างกลุ่มย่อยพูดคุยระหว่างทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคนั้นๆ ได้ แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบก็คือ ข้อความคุยเล่นที่โผล่เข้ามาในกลุ่มไลน์กลายเป็นขยะทำให้พลาดข้อความสำคัญที่ต้องการเน้นย้ำไป เทคนิคง่ายๆ ให้ลองปักหมุดข้อความสำคัญ สร้างโน้ต พืมพ์ข้อความที่ค้นหาได้ง่ายโดยใช้คีย์เวิร์คสำคัญ อย่าลืมตั้งค่าความละเอียดภาพก่อนส่งไฟล์ และสร้างอัลบัมภาพไว้ ป้องกันไฟล์หมดอายุ

App : LINE

 

3. วางแผน ติดตามงานไม่ให้หลุด

เป็นโปรแกรมจัดการ task งานที่นิยมใช้ออฟฟิศยุคใหม่ อย่าง Trello และ Asana โปรแกรม ลักษณะนี้จะเข้ามาช่วยจัดการปริมาณงานที่ค่อนข้างมากและติดตามงานอย่างเป็นระบบ รวมถึงใช้ประเมินผลงาน และเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้ หากมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ข้อดีคือสามารถใช้งานฟรี แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชั่นพิเศษ แบบใช้งานได้ไร้ขีดจำกัด ก็สามารถอัพเกรด และจ่ายค่าบริการรายปี ได้ตามจำนวนผู้ใช้ แจ้งเตือนได้ มีแอปให้ดาว์นโหลดใช้บนมือถือด้วยนะ

App : Trello

 

4. Google G suite แชร์เอกสาร สไลด์งานร่วมกัน

ไฟล์ที่แชร์บนออนไลน์เพื่อดูหรือแก้ไขด้วยกันในทีมได้ เป็นอะไรที่เวิร์คมาก เดี๋ยวนี้หลายๆ โปรแกรมของ Google ได้ออกแบบให้ใช้งานร่วมกัน อย่างไฟล์เอกสาร (Doc) ไฟล์ตาราง (Sheet) ไฟล์พรีเซ็นต์ (Slide) ก็สามารถสร้างและแก้ไขร่วมกันได้ ค้นหาง่าย แก้ไขได้จากสมาร์ทโฟน เมื่อทำเสร็จแล้วก็มาสามารถเซฟเก็บไว้ในเครื่องได้เลย

App : Google G suite

 

5. แชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ เปิดได้ทุกที่

เวลาอยู่ออฟฟิศอยากได้ไฟล์ใหญ่แค่ไหน ก็เสียบแฟลชไดร์ฟเซฟเอามาเปิดในเครื่องตัวเองได้ แต่ถ้าต้อง Work at Home เทคโนโลยี Cloud ยังช่วยชีวิตเราได้เสมอ จะฝากไฟล์ไว้ใน Google Drive , Dropbox , Apple iCloud หรือ One Drive ก็ได้ตามที่ถนัด พื้นที่ให้บริการฟรี ก็มีให้อยู่เยอะพอควร ถ้าจัดการดีๆ ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มนะ

App : iCloud , Google Drive , Dropbox , Onenote

 

6. จดบันทึกนัดหมาย แชร์กันได้ครบทีม

บันทึกนัดหมาย ตารางงาน ประชุมสำคัญ โลเคชั่นอยู่ไหน แชร์ให้คนในทีมได้ถ้าใช้ Google Calendar แอปนี้ผู้ใช้สามารถสร้างปฏิทินที่มองเห็นเฉพาะทีม หรือดูระหว่างทีมก็ได้ โดยสามารถอัพเดทรายละเอียดของนัดหมาย และ Tag คนที่เกี่ยวข้องได้ เหมาะสำหรับออฟฟิศที่ใช้บริการ Gmail อยู่แล้ว

App : Google Calendar , Apple Calendar 

 

7. จัดตารางงาน ลำดับความสำคัญให้เป๊ะ

เวลามีงานเข้าพร้อมกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ลองใช้ To do list ช่วยจัดตารางงาน สิ่งที่ต้องทำ และลำดับความสำคัญ ก่อนหลัง จะช่วยแก้ปัญหางานที่ยุ่งเหยิง ทำไม่ทัน ไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ ไม่สำคัญได้อย่างดีเยี่ย

App : To do list

 

8. วางแผนเวลาทำงานให้บาลานซ์

จัดตารางเวลาในแต่ละวัน เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามของคนที่ Work at Home เพราะถ้าจัดการไม่ดี มีพังแน่ ยิ่งบรรยากาศที่บ้านเหมาะกับการพักผ่อน ทำงานบนที่นอน หรือเผลอดูซีรีส์ ไถ่ฟีตโซเชียล จนงานเสร็จไม่ทันโดนเจ้านายฟาดแน่

App : Toggl Time Tracker for Work , Clockify Time Tracker

 

9. ให้ร่างกายได้พักบ้าง

สำหรับคนที่ชอบทำงานเพลินจนลืมพัก หรือละสายตาออกจากหน้าจอ แอป Relax & Sleep จะช่วยเตือนให้ร่างกายได้พักผ่อน พักก่อน มีเสียงดนตรีบรรเลงให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว

App : Relax Melodies 

 

10. เครื่องมีปัญหา ซอฟต์แวร์ฟังแก้ได้

ซอฟต์แวร์พัง ติดขัดทำงานไม่ได้ จะตามฝ่ายไอทีมาช่วยยังไง ถ้าทำงานที่บ้าน ปัญหานี้จะหมดไปถ้ามี Team viewer โปรแกรมนี้ค่อนข้างตอบโจทย์มาก ติดปัญหาตรงไหน ให้ผู้รู้รีโมทเข้ามาแก้ได้ หายห่วง แต่ถ้าปัญหาเกิดบนสมาร์ทโฟนล่ะก็ Chrome Remote Desktop พอจะช่วยได้

App : Team viewer , Chrome Remote Desktop