5. กันน้ำได้?…แต่ก็ยังพัง?
มือถือกันน้ำได้ดูจะกลายมาเป็นหนึ่งในคุณสมบัติใหม่ๆ ที่อุปกรณ์ไอทีทั้งหลายโดยเฉพาะ มือถือและแท็บเล็ต ต่างก็เริ่มเพิ่มความสามารถแบบนี้ลงไป เนื่องจากมันช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน และรองรับการใช้ชีวิตกลางแจ้งได้มากขึ้น แต่อย่าลืมว่า แม้จะกันน้ำได้ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อโดนน้ำแล้วจะไม่พัง แล้วมันเป็นเพราะอะไร? ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าคำว่ากันน้ำได้นั้นมันก็มีหลายระดับ ที่เราเรียกกันว่า IP (Ingress Protection) หรือ ระดับการป้องกัน
ขอบคุณภาพจาก thailumia.com
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า อุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่นั้นจะเป็นประเภท Water-resistant หรือ ทนน้ำ ไม่ใช่ Water proof หรือ กันน้ำ ได้แบบจริงจัง ดังนั้นเราจะคาดหวังว่าจะสามารถน้ำมือถือลงไปดำน้ำ หรือ แช่น้ำได้นานๆ ควรเป็นไม่ได้ แล้วอย่างนี้จะรู้ได้อย่างได้ว่า มือถือของเราเอาไปเล่นสงกรานต์ด้วยได้รึเปล่า? คำตอบคือให้ดูที่ IP ซึ่งเจ้าตัวนี้แหละจะเป็นตัวบอกว่า มือถือเครื่องนี้ทนน้ำได้ในระดับไหนกัน ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S5 เปิดตัวพร้อมยืนยันว่าได้มาตรฐาน IP67
วิธีการดูคือ เลขหลักแรกหมายถึงการป้องกันการกระทบ กระแทกจากพวกของแข็ง มีตั้งแต่ 0-6
ระดับ 0 ไม่มีการป้องกันใดๆ > ระดับ 1 ป้องกันการกระแทกจากของขนาดไม่เกิน 50 มม. > ระดับ 2 ป้องกันการกระแทกจากของขนาดเกิน 12.5 มม. > ระดับ 3 ขนาดเกิน 2.5 มม. > ระดับ 4 เกิน 1 มม. > ระดับ 5 ป้องกันฝุ่น > ระดับ 6 สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตัวเลขหลังจะประกอบด้วยเลข 0-8 ระดับ 0 ไม่ป้องกันความชื้นใดๆ > ระดับ 1 ป้องกันหยดน้ำจากความชื้นได้ > ระดับ 2 ป้องกันละอองน้ำที่มุมไม่เกิน 15 องศาจากแนวตั้ง > ระดับ 3 ป้องกันละอองน้ำที่มุมไม่เกิน 60 องศาจากแนวตั้ง > ระดับ 4 ป้องกันละอองน้ำได้ทุกทิศทาง > ระดับ 5 ป้องกันการสาดน้ำ (เทน้ำความจุ 10 ลิตร ใส่ได้นาน 5 นาที) > ระดับ 6 ป้องกันการเปียกน้ำได้ (ประมาณลมฝน) > ระดับ 7 แช่น้ำได้ที่ความลึก 15 ซ.ม. ถึง 1 ม. > ระดับ 8 ใช้งานใต้น้ำได้แบบสมบูรณ์
ขอบคุณภาพจาก mxphone.net
