ปัจจุบันที่การ Work From Home กลายเป็นเรื่องปกติ คนรุ่นใหม่ Gen Z และ Millennials ที่เป็นคนวัยทำงานในยุคนี้นั้นย่อมต้องมีการปรับตัว และพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จากการวิจัย 2021 Deloitte Global Resilience Report คุณลักษณะของคนรุ่นใหม่ที่ส่งผลให้งานรุ่ง ชีวิตเริ่ดสุด คือความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ โดยชาว Gen Z เห็นด้วยถึง 40% และคนรุ่น Millennials เห็นด้วยเป็นจำนวน 46% รองลงมาคือความคิดสร้างสรรค์ และการรู้เท่าทันเทคโนโลยี นั่นหมายความว่าการที่มีสมาร์ทดีไวซ์ หรืออุปกรณ์ไอทียุคใหม่อย่างแท็บเล็ตสักเครื่องที่ช่วยเติมเต็ม 3 คุณลักษณะนี้ได้ ก็จะยิ่งทำให้เราทำงานได้แบบแฮปปี้ยิ่งขึ้นไปอีก ไปดูกันดีกว่าว่าในวันหนึ่งวัน คนรุ่นใหม่เขาทำงานด้วยแท็บเล็ตตัวใหม่สุดเจ๋ง HUAWEI MatePad 11 ยังไงบ้าง ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันไหนที่ช่วยให้รุ่งและเริดทั้งงานและชีวิตภาพรวมแบบ 360 องศา!
เฟี้ยว ฉับไว เหนือระดับสุดในเวลางานด้วยฟังก์ชันที่แสนสะดวก
ในแต่ละวันของคนรุ่นใหม่ งานมักจะเยอะเสมอจนคนนอกอาจคิดว่าพวกเขาจัดการได้อย่างไร แต่เมื่อคนทำงานสมัยนี้มีตัวช่วยที่มากกว่าแล็ปท็อป แถมยังเป็นสมาร์ทดีไวซ์ที่ทำงานเสริมกับแล็ปท็อปได้อย่างดีเยี่ยมด้วย แน่นอนว่าจากงานที่ล้นมือก็จะกลายเป็นงานที่จัดการได้ง่ายภายในเวลาทำงานที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต
- เริ่มเช้าอันสดใสด้วย Service Widget อัจฉริยะ ทุกเช้าผู้ใช้แท็บเล็ตจะสามารถอัปเดตชีวิตประจำวันไปพร้อมๆ กาแฟแก้วโปรด ผ่านฟังก์ชัน Service Widget ที่อยู่บนหน้าโฮมของแท็บเล็ตเครื่องนั้นๆ พวกเขาสามารถเพิ่ม และตั้งค่าสิ่งที่จะโชว์อยู่บนหน้าโฮมได้ง่ายๆ ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเอง ตั้งแต่ใช้ Notepad หรือ Calendar เขียนข้อมูลทั่วไปที่สำคัญของวัน เช่น วันนี้มีประชุมอะไรบ้าง มีงานอะไรต้องส่ง ซึ่ง Service Widget ที่ว่ายังสามารถเตือนให้เราไม่ลืมวัน นัด หรืองานสำคัญที่เราโน้ตไว้ใน Calendar ได้ด้วย ไปจนถึงข้อมูลทั่วไปอย่างดูว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไร ฝนจะตกไหมจาก Weather และเดินได้กี่ก้าวแล้วจาก Heath คนไม่พลาดข่าวประจำวันอาจจะเพิ่ม Widget ข่าว เพื่อดูเหตุการณ์สำคัญแบบเร็วๆ ได้ภายในไม่กี่นาที แถมยังปรับรูปทรงของ Widget ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะ 2×1, 2×2, 2×4, หรือ 4×4 บน HUAWEI MatePad 11 ตัวล่าสุด บนฟีเจอร์ที่เรียกว่า Service Widget
- ประชุม หรือทำงานนอกสถานที่ได้แบบตัวปลิว พอเริ่มเข้าออฟฟิศ นั่งโต๊ะได้ไม่กี่นาทีก็ต้องลุกเข้าห้องประชุม คงจะดีกว่าถ้าสามารถถือแท็บเล็ตที่เบาเท่าสมุดไปแทนแล็ปท็อป แม้ในช่วง Work From Home แท็บเล็ตที่เบาหวิวพอจะถือไปนั่งมุมไหนก็ได้ที่ถนัด ถ้าให้ดี เมื่อใช้งานกับคีย์บอร์ดก็ควรจะเบากว่า 1 กก. อย่าง HUAWEI MatePad 11 ที่ติดคีย์บอร์ดแล้ว ก็ยังหนักเพียงแค่ 805 กรัม[1] เท่านั้นเอง
- ปั่นงานและพรีเซนได้สบาย ชาวออฟฟิศบางคนสามารถใช้แทนที่แล็ปท็อปในบางโอกาสได้เลย เพราะรองรับโปรแกรมทำงานแบบ WPS Office และมี User Interface ที่เหมือนกับแล็ปท็อป ทั้งฟังก์ชันเปิดได้หลายหน้าต่าง และหลายไฟล์เพื่อทำงานพร้อมกัน หรือเปิดหน้าต่างลอยจากต่างแอปฯ เช่น App Multiplier และ Multi-Window ของหัวเว่ย เวลาวางแพลนนำเสนอต่างๆ ก็จะเปิดดูบรีฟ ไปพร้อมกับงาน โดยสามารถ Copy และ Paste ข้อความสำคัญมาใช้ได้บนจอเดียว แท็บเล็ตอย่าง HUAWEI MatePad 11 ยังสามารถเป็นจอพรีเซนงานให้ลูกค้าได้ด้วย เพียงใช้ HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop2 ใน Mirror Mode สะท้อนสไลด์ของเราให้ลูกค้าดู ขณะเราควบคุมสไลด์ของตัวเองไปด้วยได้ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าอะไรจะผิดพลาด
- ทบทวนเนื้อหางานและสรุปงานที่ต้องส่ง จะได้เลิกงานไปชิลอย่างสบายใจ คนที่บริหารเวลาได้ดี มักใช้เวลาสักชั่วโมงก่อนไปพักผ่อนเพื่อจัดระเบียบงานลูกค้า หรือวางแผนสำหรับงานที่จะทำในวันข้างหน้า แท็บเล็ตทำให้พวกเขามีพื้นที่ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เรียบเรียงโน้ตจากการประชุม และวางแผนความคิด คือสามารถใช้ปากกาอิเล็กทรอนิกส์ หรือคีย์บอร์ด สร้างโน้ตสวยๆ ในแอปฯ อย่าง Notability หรือ Concepts ได้ ปากกาแบบ HUAWEI M-Pencil (2nd generation) มีความฉลาดมากพอรองรับการใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์โดยสามารถเปลี่ยนเครื่องมือวาดเขียนได้ง่ายๆ เพียงเคาะ Double-tap ที่ข้างปากกา ไฮไลท์ไฟล์ลูกค้าผิดไป ก็ลบได้ทันใจ คนที่ชอบพิมพ์มากกว่าก็สามารถใช้ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เรียบเรียงโน้ตส่วนตัว แล้วตกแต่งต่อด้วยปากกาก็ได้
สนุกต่อตอนเลิกงานโดยมีแท็บเล็ตเป็นคู่หู
สิ่งที่ขาดไม่ได้ของคนรุ่นใหม่ คือเวลาพักผ่อนหลังวันอันยาวนาน ต่อให้ชีวิตการทำงานรุ่งแค่ไหน แต่ Work Life Balance ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากเป็นผู้ช่วยแล้วแท็บเล็ตเครื่องเดิมก็ทำหน้าที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากงานได้ด้วย
- วิดีโอคอลกับเพื่อนและครอบครัว คนทำงานที่อาศัยอยู่คนเดียว ห่างไกลกับเพื่อนหรือครอบครัว ยิ่งในช่วง Work From Home ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพที่จำเป็นต้องเจอหน้ากันผ่านทางออนไลน์ แต่ขึ้นชื่อว่าปรับตัวเก่งแล้วแน่นอนว่าแท็บเล็ตจะเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ ถ้ากินข้าวย็นคนเดียวมันเหงาใจ ก็ใช้ฟีเจอร์วิดีโอคอลของแท็บเล็ต แล้วตั้งตัวเครื่องบนโต๊ะอาหาร นัดเวลากับปลายสาย แล้วกินข้าวแบบเห็นหน้ากันผ่านวิดีโอคอลได้เลย MeeTime ของหัวเว่ยจะช่วยให้เห็นหน้าคนที่คิดถึงได้ชัดเจนระดับ HD ไม่มีกระตุก ถ้าอยากเดทออนไลน์ใต้แสงเทียน ก็เห็นหน้าคนรักได้ชัดในที่แสงน้อย
- ดื่มด่ำกับหนังและซีรีส์สุดโปรด เมื่อได้เวลาดูซีรีส์ที่ค้างไว้ตอนต่อไป หยิบเครื่องดื่มที่ชอบ แล้วเปิดซีรีส์หรือหนังที่รอคอยผ่านแท็บเล็ตได้เลย แท็บเล็ตยุคนี้จอมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงได้ถึง 120 Hz หมายความว่าฉากบู๊ที่มีการเคลื่อนไหวหนักๆ จะดูได้ละเอียดชัดเจนไร้ความหน่วงมากขึ้น เผลอๆ อาจจะทำให้เห็น Easter Eggs ที่ทีมผลิตหนังฟอร์มยักษ์ชอบซ่อนเอาไว้ให้แฟนตัวยงสังเกตความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละเรื่องในจักรวาลเดียวกันได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องไปตามดูสปอยล์ทีหลัง
- ให้รางวัลตัวเองด้วยการช้อปออนไลน์ สายแฟหลายคนอาจจะชอบฮีลตัวเองหลังทำงานด้วยการเปิดแอปฯ ช้อปปิ้ง ดูโปรเด็ด หรือแค่ไถหน้าจอไปเรื่อยๆ เผื่อมีไอเทมเตะตาน่าซื้อก็ฟินแล้ว แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ได้เปรียบจากมือถือตรงที่สามารถดูรายละเอียดของได้ง่ายกว่าเดิม และฟีเจอร์หน้าต่างลอยก็จะช่วยให้อ่านรีวิวพร้อมดูของไปด้วย และแชทคุยกับแม่ค้าไปด้วยได้ แท็บเล็ตหัวเว่ยครีเอทีฟกว่านั้น ด้วยความเจ๋งของ App Multiplier ที่ทำให้สามารถแบ่งหน้าจอแอปฯ หน้าสินค้าหลัก กับหน้ารายละเอียดสินค้าบนแอปฯ อย่าง Lazada ได้ง่ายและช้อปได้อย่างแฮปปี้ โดยแอปฯ ช้อปเด็ดๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee Lazada หรือ JD Central ก็มีให้โหลดมาไว้ใช้บนแท็บเล็ตผ่านคลังแอปฯ มาแรงอย่าง HUAWEI AppGallery
- พักผ่อนสมองแบบมันๆ ด้วยเกมออนไลน์ เมื่อมีแท็บเล็ตอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงทั้งที เกมเมอร์จะพลาดโอกาสเล่นเกมหลังทำงานไปได้ยังไง ข้อดีของแท็บเล็ตจอ 120 Hz คือการเคลื่อนไหวของตัวอวาตาร์ของคุณจะมีความหน่วงต่ำ วางใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาสะดุดติดขัดจนไม่รอดในเกม เช่น อยู่ๆ ตัวอวาตาร์ดันเดินกระตุกจนโดนยิงอย่างน่าอนาถ ตรงกันข้าม เพราะจอมีความแม่นยำสูง การเล็งเป้าหมายของคุณก็จะง่ายขึ้น อีกทั้งยังจอกว้างกว่ามือถือเล่นได้สะใจเต็มที่แน่นอน
- อ่านนิยายสไตล์ที่ชอบก่อนนอน ความผ่อนคลายที่ทำได้ก่อนนอนหลับฝันดี สายนักอ่านคงชอบหยิบนิยายเรื่องโปรดมาอ่าน แต่หนังสือเป็นเล่มๆ อ่านช่วงดึกคงเปลืองไฟน่าดู หลายคนเลยเปลี่ยนมาอ่านในรูปแบบอีบุ๊คแทน สำหรับหน้าจออัตรารีเฟรชสูงๆ ก็จะอ่านนิยายออนไลน์ได้ลื่น โดยหมดห่วงว่าจะเป็นอันตรายต่อสายตา เพราะแท็บเล็ตยุคนี้มีเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าและการกระพริบของภาพ HUAWEI MatePad 11 เองก็ได้รับการรับรองความปลอดภัยต่อสายตาจาก TÜV Rheinland เช่นกัน
HUAWEI MatePad 11 เป็นแท็บเล็ตรุ่นล่าสุด และรุ่นแรกจากหัวเว่ยที่มีอัตรารีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120 Hz ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล พร้อมตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการทำงานแบบฉบับคนทำงานรุ่นใหม่มือโปรและความบันเทิงโดยเฉพาะการชมคอนเทนต์คุณภาพ และเล่นเกม โดยสามารถเป็นอุปกรณ์คู่ใจในการทำงานยุคใหม่ได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสุดๆ ใครที่ยังไม่มีแท็บเล็ตแล้วอยากได้ อยากลองสัมผัสชีวิตสะดวกแบบมีสไตล์ที่ช่วยให้งานรุ่ง ก็พุ่งไปหารุ่นที่ชอบที่เหมาะกับตัวเองเลยอย่าได้รอช้า และถ้าหากสนใจ HUAWEI MatePad 11 หน่วยความจำ 6GB + 128 GB (รุ่น WiFi) สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ โดยสี Matte Grey ที่มาพร้อม HUAWEI M-Pencil (2nd generation) บรรจุภายในกล่อง วางขายในราคา 19,990 บาท ส่วนสี Isle Blue จะอยู่ที่ราคาเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
โดยเมื่อซื้อ HUAWEI MatePad 11 หน่วยความจำ 6GB + 128 GB สี Matte Grey ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 15 สิงหาคม 2564 ที่ HUAWEI Store, HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง JD Central, Lazada และ Shopee รับทันทีของสมนาคุณ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI Freelace Pro, สิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 1 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน และ FilmoraGo HD VIP 3 เดือน มูลค่ารวม 9,172 บาท
และเมื่อซื้อ HUAWEI MatePad 11 หน่วยความจำ 6GB + 128 GB สีใหม่อย่าง Isle Blue ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 15 สิงหาคม 2564 ที่ HUAWEI Store, HUAWEI Experience Store, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง JD Central, Lazada และ Shopee รับทันทีของสมนาคุณ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard พร้อมสิทธิพิเศษจากแอปฯ ต่างๆ ได้แก่ HUAWEI Cloud 1 เดือน (50GB), HUAWEI Video VIP 1 เดือน, WPS Office VIP 3 เดือน และ FilmoraGo HD VIP 3 เดือน มูลค่ารวม 6,173 บาท
สามารถติดตามรายละเอียดโปรโมชันอื่นๆ ได้ทาง เฟซบุ๊กเพจ Huawei Mobile TH และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ https://bit.ly/3BpH44Q โดยสามารถศึกษารายละเอียดเงื่อนไขโปรโมชันเพิ่มเติมที่นี่
[1] ผลการทดสอบจากห้องทดลองของหัวเว่ยระบุว่า ตัวเครื่อง HUAWEI MatePad 11 มีน้ำหนักรวมแบตเตอรี่โดยประมาณ 485 กรัม และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มีน้ำหนักรวมแบตเตอรี่ประมาณ 320 กรัม น้ำหนักจริงของเครื่องอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการปรับแต่งและกระบวนการการผลิต
[2] HUAWEI Multi-screen Collaboration with laptop ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย ผสานการทำงานระหว่างแท็บเล็ตกับแล็ปท็อป เพื่อใช้งานร่วมกันได้ทั้งแบบจอเสมือนหรือแบบจอแยก ทำให้สามารถเปิดโปรแกรมต่างๆ บนแล็ปท็อปผ่านการใช้งานบนแท็บเล็ตได้ ทั้งนี้ HUAWEI MatePad 11 สามารถเชื่อมต่อกับแล็ปท็อปของหัวเว่ยที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ PC Manager เวอร์ชั่น 11.1.0+ ขึ้นไป