หลายคนอาจเคยทำ โทรศัพท์ตกน้ำ และมักมีความเชื่อโบราณฝังหัวว่า ให้เอาไปแช่ข้าวสาร เอาไดรเป่า หรือหาสารพัดวิธีเพื่อทำให้โทรศัพท์แห้งไวที่สุด ในที่นี้ อาจมีความเชื่อเก่าที่เราไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง มีไรบ้างไปดูกัน
ก่อนเข้าเรื่องวิธีแก้ ผมอยากพูดถึงแนวทางการซื้อโทรศัพท์ เราเข้าใจโทรศัพท์เราดีแค่ไหน โดยเฉพาะในโทรศัพท์รุ่นใหม่จะกำหนดให้มีมาตรฐาน IP (International Protection Standard) โดยเป็นค่าที่บ่งบอกถึงการกันน้ำและกันฝุ่น
สำหรับ iPhone 7 ที่ผมใช้อยู่มีค่า IP67 ที่ Apple ยืนยันว่ากันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที แต่ iPhone 11 มีมาตรฐาน IP68 ที่สามารถกันน้ำได้สูงสุด 2 เมตร นาน 4 ชั่วโมง ฉะนั้นแล้ว หากจะซื้อโทรศัพท์สักเครื่อง ลองดูที่มาตรฐาน IP ให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเลือกซื้อโทรศัพท์แล้วกันนะ
เข้าเรื่องการแก้ไขหากโทรศัพท์ตกน้ำ
รีบปิดเครื่องให้ไวที่สุด
หลังจากปิดเครื่อง พยายามแกะซิมออกโดยใช้เข็มจิ้มซิมเอาทั้งถาดซิมออกมา ค่อย ๆ ทำนะ เพราะอาจมีละอองน้ำเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในถาดซิม โดยหลักจากปิดเครื่องก็แกะออกมาซะ
ทำโทรศัพท์ให้แห้งไวที่สุด
นี่เป็นสิ่งพื้นฐานที่ควรทำ แต่หลายคนอาจยึดความเชื่อเก่า ๆ และอาจทำให้โทรศัพท์เกิดความเสียหายมากขึ้น
- แช่ถังข้าวสาร สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ในกรณีที่มีน้ำเข้าโทรศัพท์มาก หรือเศษแป้งของข้าวสารอาจเข้าไปอุตตันในเครื่องได้
- อย่าใช้ไดรเป่าผมเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่หรือส่วนต่าง ๆ เสียหายได้ เพราะอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนในส่วนที่มีน้ำ (แม้จะปิดเครื่อง โทรศัพท์เราก็ไม่ได้ชอบความร้อนสะสมมากขนาดนั้น)
- อย่าเอาไปเข้า Microwave (มันเคยมีคนทะลึ่งทำจริง ๆ นะเออ)
- วางในที่แดดส่องถึง
- วางในกล่องที่มีสารดูดความชื้น ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าข้าวแน่นอน
หากเปิดเครื่องแล้วใช้ไม่ได้
หากโทรศัพท์เราจมน้ำเป็นเวลานาน และเปิดไม่ติด หากอยู่ในประกัน ให้เราทำให้โทรศัพท์เราแห้งที่สุด ก่อนจะนำมันไปเคลม วิธีนี้จะทำให้เรามีโอกาศเคลมได้มากขึ้น แต่หากหมดประกันก็ต้องลองซ่อมหรือขายทิ้งอย่างเดียวเลยจ้า