4. ลงทะเบียน Apple ID ใหม่ ให้ใช้ของนอก
ไม่ใช่เพียงแค่ Windows Store เท่านั้นหรอกครับที่มีการแบ่งภูมิภาคในการให้บริการ แต่ทาง Apple เองก็มีการแบ่งแยกประเทศเช่นเดียวกัน เพียงแค่การโหลดแอพฯ จาก App Store นั้นจะต้องผูกกับ Apple ID โดยการตรวจสอบว่าคุณจัดอยู่ในภูมิภาคไหน และใช้ App Store แบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่คุณได้ระบุไว้ใน Apple ID
วิธีการนี้คล้ายๆ กับเมื่อหลายปีที่แล้ว ที่หลายๆ คนทำกับ Hotmail ซึ่งเมื่อคุณเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อยู่ในอีเมล์ของคุณที่ได้ลงทะเบียนไว้ ระบบจะคิดว่าคุณอยู่ประเทศนั้นๆ และจัดสิทธิ์ต่างๆ ให้ตามที่คนประเทศนั้นจะได้รับ
เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่ากับการสมัคร Apple ID ของนอก ซึ่งในตัวอย่างนี้ ผมจะสมัครของประเทศญี่ปุ่น เพราะได้ข่าวว่าของดี ของฟรี เพียบ!
1. ขั้นแรก แนะนำว่าให้มีอุปกรณ์ iOS ซึ่งในที่นี้ผมเลือกใช้ iPad ครับ โดยเข้าไปที่ App Store และถ้าหากว่าคุณได้เคยใช้ Apple ID เดิมของคุณอยู่แล้ว ก็ให้ Sign Out ออกไปก่อน
2. วิธีการ Sign Out นั้น เมื่อเข้าที่ App Store ให้เลื่อนลงมาล่างสุด จะเห็น Apple ID ของคุณ เพียงแค่แตะ แล้วเลือก Sign Out ก็เป็นอันเรียบร้อย
3. จากนั้นให้เลือกแอพฯ ฟรีอะไรก็ได้ขึ้นมา แล้วกดที่ปุ่ม Free แล้ว Install เพื่อดาวน์โหลด โดยไม่ต้องใส่ Apple ID เอาไว้ ในที่นี้ผมเลือกแอพฯ ที่ชื่อ Concepts: Smarter Sketching
4. ระบบจะถามหา Apple ID ให้เราเลือก Create New Apple ID
5. ในหน้าของการสมัคร Apple ID หน้าแรก จะมีให้เลือก Store ซึ่งจุดนี้ให้เราเปลี่ยน Thailand ไปเป็นญี่ปุ่น โดยมันจะเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ ดูได้จากภาพ จากนั้นกด Next
6. หน้าต่อมา โชคดีที่เป็นภาษาอังกฤษ ยังพอเดาได้ ให้เลื่อนลงมาล่างสุด แล้วกด Agree
7. จากนั้นให้เรากรอกอีเมล์ที่เราจะใช้ผูกกับ App Store ของญี่ปุ่นครับ รวมถึงกรอกรหัสผ่าน และคำถามลับในกรณีที่ลืมรหัสผ่านได้วย
8. ต่อมาจะเป็นการใส่ข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งจะมีตัวเลือก None ให้เรา ดังนั้นไม่ต้องกรอกข้อมูลบัตรครับ แต่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งคุณสามารถใช้ชื่อปลอม ที่อยู่ปลอม กรอกมั่วได้เลย ยกเว้นชื่อจังหวัดที่จะบังคับเลือก และจะต้องตรงกับรหัสไปรษณีย์ โดยในที่นี้ผมเลือกจังหวัด Tokyo ครับ และใช้รหัสไปรษณ์ย์เป็น 3210000 ใส่ตามนี้ได้เลยครับ
9. เป็นอันเสร็จพิธีสำหรับการสมัคร Apple ID ของญี่ปุ่น หากเป็นของประเทศอื่นก็จะต้องเตรียมข้อมูลให้ถูกต้องด้วย
10. ขั้นตอนสุดท้าย ท้ายสุด ให้ไปเช็กอีเมล์ที่เราใช้สมัครครับ จะมีอีเมล์ส่งไปเพื่อให้เรายืนยันว่าเราเป็นเจ้าของอีเมล์จริงๆ เมื่อคลิกยืนยันแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธีของจริง
11. คราวนี้ก็จะได้ App Store ของญี่ปุ่นมาใช้งานกันแล้วครับ เลือกโหลดได้ตามต้องการเลย
