รีวิว Moto G5 Plus ดีไซน์ทันสมัย โดดเด่นด้วยกล้องหลังที่ดีขึ้น

June 27, 2017

ภาคต่อของ Moto G Series เดินทางมาถึงรุ่นที่ 5 แล้ว ในรุ่นล่าสุดอย่าง Moto G5 Plus ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยได้ระยะหนึ่งแล้ว ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีอะไรบ้าง รีวิว Moto G5 Plus จากทีมงาน COMTODAY และ aripfan.com จะไขคำตอบให้กับทุกคนครับ

Moto G5 Plus สเปกมีดังนี้

– ตัวเครื่องมีความบาง 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 155 กรัม

– หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD (424 ppi) กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3

– ใส่ Nano SIM ได้สองซิม

– ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat

– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ประเภท Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz

– หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506

– แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 32GB, รองรับ microSD ได้สูงสุด 256GB

– กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยี Dual Pixel, รูรับแสง f/1.7, แฟลชคู่ Dual-LED, ระบบ Auto Focus, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 4K

– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2

– สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม

– การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 4.2, NFC

– พอร์ต microUSB 2.0

– รองรับ FM radio

– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh (แบตถอดไม่ได้) มาพร้อมเทคโนโลยี Fast charging

– มีสองสีที่วางจำหน่าย ได้แก่ สีเทา และสีทอง

– ราคาตอนเปิดตัว 9,990 บาท

ดีไซน์ : หากใครยังจำกันได้เมื่อครั้งที่ผมรีวิว Moto M เมื่อได้เห็น Moto G5 Plus อาจรู้สึกถึงความคล้ายคลึงกัน ในด้านวัสดุที่เป็นอลูมิเนียม ความโค้งมนที่มุมทั้งสี่ด้าน ซึ่งพอเดาได้ว่าดีไซน์ในลักษณะนี้น่าจะได้เห็นในสมาร์ทโฟน Moto รุ่นราคาไม่เกินหมื่นอีกหลายๆ รุ่นถัดไป มีความหรูอยู่พอตัว ให้ความทนทาน พร้อมกระชับมือกับในเวลาถือ

ด้านหน้า : เป็นจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3 อันนี้ส่วนรู้สึกแปลกหน่อยๆ ที่ยัง Gorilla Glass รุ่นเก่าอย่างน้อยๆ เป็นรุ่น 4 ก็ยังดีกว่า ส่วนอื่นๆ ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมาก แบ่งเป็นเซนเซอต์ตรวจวัดแสง, ลำโพงสนทนาและกล้องหน้าอยู่เหนือจอแสดงผล ถัดลงมาล่างสุดเป็นปุ่มโฮมที่เป็นสแกนลายนิ้วมือในตัว (สามารถกำหนดความสามารถให้ใช้งานเป็นปุ่ม back, recent app, เปิด-ปิดจอได้ ) ส่วนการใช้ปุ่มโฮม, ปุ่ม back และ recent app แบบปกติเป็นจะอยู่ท้ายสุดบนจอแสดงผล

ด้านหลัง : ที่สะดุดตาคงเป็นโมดูลกล้องหลังที่มีความละม้ายคล้ายในรุ่น Moto Z มีลักษณะยื่นออกมาจาตัวเครื่องพอสมควร ด้านหลังเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความรู้สึกหรูพอตัว

ขอบบน : เป็นถาดสำหรับใส่ซิม ประเภท Nano SIM ใส่สองซิมพร้อม microSD Card ได้

ขอบล่าง : ประกอบไปด้วยรูหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับพอร์ต microUSB 2.0

ขอบด้านขวา : เป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง กดง่ายและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่กระทบกับการหยิบถือ

ขอบด้านซ้าย : ไม่มีปุ่มใดๆ

Software : Moto G5 Plus คงความเป็น Android ล้วนๆ ทั้งหมด หรือในศัพท์ที่เรียกว่า Pure Android ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat อาจขาดสีสันไปบ้าง แต่สิ่งที่เป็นอยู่ช่วยให้การใช้งานเป็นอย่างลื่นไหล ทำงานได้ต่อเนื่องในทุกๆ ฟีเจอร์

ขณะเดียวกัน Moto Action เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของสมาร์ทโฟน Moto เป็นการกำหนดการใช้งานด้วยท่าทางและเพิ่มกำหนดความสามารถให้กับปุ่มโฮม หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานถือเป็นฟีเจอร์ให้ความสะดวกสบายที่ช่วยให้การเข้าถึงแอพบางอย่างได้รวดเร็ว อาทิ การเปิดกล้อง แค่ถือ Moto G5 Plus แล้วสะบัดข้อมือไปมาสองรอบ เป็นการเรียกใช้กล้องที่รวดเร็วในยามที่ต้องการหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพแบบด่วนๆ เป็นต้น

การใช้งานด้านความบันเทิง : ด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 625 และ หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506 ช่วยให้การเล่นเกมนั้นเสถียรและลื่นพอสมควร ขณะที่เรื่องของเสียงเป็นสมาร์ทโฟน Moto อีกหนึ่งรุ่นที่มีระดับความดังที่ดังมาก

ตัวอย่างจากคลิปวีดีโอโอ เป็นการทดสอบเล่นเกม Asphalt Nitro

แบตเตอรี่ : เป็นอีกหนึ่งรุ่นของ Moto ที่กล้าคุยได้ว่าแบตเตอรี่ 3000 mAh ไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้งานแบบพีคๆ ใน 1 วันยังอยู่ได้ แถมถ้าเป็นคนที่ใช้งานไม่เยอะด้วยแล้วทะลุไปเกือบสองวันก็ยังทำได้สบายๆ ครับ

กล้องถ่ายภาพ : เริ่มกันที่กล้องหลัง หลายคนคงสงสัยว่า Moto G5 Plus ทำไมลดความละเอียดลงเหลือ 12 ล้านพิกเซล นั่นเป็นเพราะความละเอียดสูงไม่ใช่คำตอบที่ช่วยให้การถ่ายภาพชัดอย่างเดียว แต่เทคโนโลยีภายในยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพให้ดีขึ้น จากเทคโนโลยี Dual Pixel พร้อมด้วยค่ารูรับแสง f/1.7 เป็นสองปัจจัยที่ช่วยให้ Moto G5 Plus มีระบบโฟกัสที่รวดเร็ว และรูรับแสงที่กว้างมีผลต่อการรับแสงได้ดียิ่งขึ้น

โหมดเพื่อการถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ

โหมด Pro

สำหรับกล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล ไม่เยอะนัก แต่ก็ช่วยให้การเซลฟี่ไม่ดูโอเวอร์จนเกินไป แถมมีโหมด Beauty ให้ปรับใบหน้าให้เนียนๆ ได้เล็กน้อยด้วย