รีวิว LG G6 ประเดิมการกลับมาของ LG กับก้าวแรกที่มีความหมาย

รีวิว LG G6

หลังการยุติทำตลาดสมาร์ทโฟนในเมืองไทยไปเกือบ 2 ปี ในที่สุด LG ได้หวนคืนสู่สมรภูมิแดนสยามอีกครั้ง พร้อมหยิบ LG G6 รุ่นเรือธงมาประเดิมการกลับมาแบบไม่เกรงกลัวใคร พร้อมโปรโมชั่นที่ใครเห็นแล้วต้องเหลียวมองทันควัน และในช่วงปลายปีแบบนี้เป็นเวลาเหมาะเจาะสำหรับหลายๆ คนในการเปลี่ยนสมาร์ทโฟน วันนี้ aripfan อาสาเป็น buyer’s guide รีวิว LG G6 เพื่อบอกเล่าความน่าใช้ให้กับทุกท่านครับ

รีวิว LG G6

ก่อนซื้อ ต้องรู้สเปก

  • ขนาดโดยรวมของตัวเครื่อง 148.9 x 71.9 x 7.9 mm น้ำหนัก 163 กรัม
  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.7 นิ้ว FullVision ความละเอียด 2880 x 1440 พิกเซล (564 ppi), อัตราส่วนจอภาพ 18:9, กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3, รองรับ Dolby Vision/HDR10
  • ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด
  • ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ครอบทับด้วย LG UX 6.0 UI
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 821 ประเภท Quad-core, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 530
  • แรม 4GB, หน่วยความจำภายใน 64GB (UFS), ใส่ microSD Card ได้ความจุสูงสุด 2TB
  • กล้องหลังเลนส์คู่ เลนส์ตัวแรกความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/1.8, OIS, 3-axis, phase detection AF) เลนส์ตัวที่สองความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/2.4, no AF), แฟลชคู่ dual LED, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 2160p ที่ 30fps
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/2.2, รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
  • รองรับการบันทึกเสียงคุณภาพสูงด้วยระบบ high-fidelity และระบบเสียงแบบ Hi-Fi Quad DAC
  • กันน้ำ กันฝุ่นได้ ภายใต้มาตรฐาน IP68 กันน้ำในระดับความลึก 1 เมตร นาน 30 นาที
  • มีสแกนลายนิ้วมือ
  • พอร์ต USB Type-C
  • รองรับการเชื่อมต่อ 2G/3G/4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, Bluetooth 4.2, NFC, GPS
  • แบตเตอรี่ความจุ 3300 mAh มาพร้อมเทคโนโลยี Fast battery charging ชาร์จถึง 50% ใน 30 นาที

ตัวเครื่อง

ภาพรวมตัวเครื่องของ LG G6 แตกต่างจาก LG G5 หรือย้อนไปถึง LG G4 อย่างสิ้นเชิง ใช้โลหะเป็นวัสดุหลัก ในลักษณะ unibody น้ำหนักมากกว่าสองรุ่นที่กล่าวถึงเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอุปสรรคหรือทำให้ปวดมือเวลาถือนานๆ กระจกหน้าจอด้านหน้าเป็น Gorilla Glass 3 ส่วนด้านหลังเลือกใช้ Gorilla Glass 5

LG G6 ยังมาพร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งน่าจะถูกใจคนส่วนใหญ่ในการหยิบหูฟังอันเป็นที่รักมาใช้ร่วมกับเครื่องนี้ได้ ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อที่ใช้ก็เป็น USB Type-C ตามสเต็ปของรุ่นเรือธง

ส่วนด้านหลังนอกจากแถบกล้องคู่และแฟลชแล้ว จะเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ที่ยังเป็นปุ่มโฮมในตัว ทดแทนการตัดปุ่มโฮมที่ด้านหน้าทิ้ง

หน้าจอ FullVision

อีกหนึ่งสิ่งที่พัฒนาขึ้นใน LG G6 นั่นคือ หน้าจอแสดงผล ครั้งนี้ LG นำรูปแบบที่เรียกว่า FullVision เข้ามาใส่ไว้ภายใต้ขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนการแสดงผล 18:9 จะเห็นได้ว่าจอแสดงผลใช้พื้่นที่ด้านหน้ามากขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดย LG ระบุว่าใช้พื้นที่ไปถึง 78.6% เพื่อการแสดงผลสามารถทำได้กว้างขึ้น รองรับการอัตราส่วนใหม่ ขณะเดียวกันการออกแบบหน้าจอยังใช้จะมีลักษณะทแยงมุมขึ้น ทรงเครื่อง LG G6 จึงดูแคบ เอื้อต่อการใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวกมากขึ้น

ขณะเดียวยังมาพร้อม Dolby Vision/HDR10 เทคโนโลยีการแสดงผลที่ช่วยปรับสีสันของภาพให้คมชัดมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้คอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์ที่ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีดังกล่าวยังมีให้เลือกไม่เยอะนัก ตอนนี้ยังมีเพียงการให้บริการจาก Netflix และ Amazon Prime Video

สำหรับการแสดงผลในอัตราส่วน 18:9 เช่น การเล่นเกม เวลานี้ยังมีบางเกมที่สามารถแสดงผลได้เต็มอัตราส่วนดังกล่าว หากรับชมภาพยนตร์หรือตัวอย่างหนังจาก YouTube การแสดงผลจะไม่เป็น 18:9 เนื่องจากส่วนใหญ่วีดีโอต่างๆ ถูกทำออกมาในสัดส่วน 16:9 ผลลัพธ์ที่ออกมาบน LG G6 จะปรากฏขอบสีดำขึ้นมา แต่ยังไงเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็ว ภาพยนตร์หรือเกมจะทยอยปรับตัวเพื่อรองรับอัตราส่วน 18:9 ได้ครับ

กล้องหลังคู่ ความแตกต่างที่ชวนให้ลอง

รีวิว LG G6 ในครั้งนี้ ผมเองยอมรับครับว่าเป็นอีกหนึ่งกล้องหลังคู่ที่ค่อนข้างรู้สึกดีครับ เหมาะกับอาชีพของผมในการเก็บภาพบรรยากาศตามงานต่างๆ ซึ่งกล้องหลังคู่ของ LG G6 สามารถเก็บภาพบุคคลในขณะถ่ายรวมได้หมดในคราวเดียว เรียกว่าไม่ง้อกล้อง DSLR เลยครับ แถมสะดวกในการใช้ด้วยครับ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผมสามารถเก็บภาพวิวทิวทัศน์ในมุมกว้างได้อย่างดีเลยครับ

user interface จากกล้องหลัง

การเก็บภาพมุมกว้างต้องยกความดีความชอบให้กับเลนส์ตัวสอง หรือเลนส์ Wide ที่ให้มุมกว้างถึง 125 องศา พร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และค่ารูรับแสง f/2.4 ซึ่งการเลือกถ่ายภาพในลักษณะแสนจะง่ายครับ โดยเมื่อเราเปิดกล้องหลังขึ้นมา บริเวณด้านบนจะมีไอคอนแสดงอยู่สองแบบคล้ายรูปต้นสน ไอคอนตัวแรกจะหมายถึงการถ่ายภาพในมุมปกติ 71 องศา ด้วยเลนส์ตัวแรก (ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/1.8, OIS, 3-axis, phase detection AF, ) ส่วนไอคอนตัวที่สองจะหมายถึงการถ่ายภาพในมุมกว้าง เพียงเราเลือกที่ไอคอนนี้ก็สามารถถ่ายภาพในมุมกว้างในในทันที

แต่ข้อจำกัดของการถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้างก็มีอยู่บ้าง เช่น ไม่มีระบบกันสั่น และ Auto Focus ทั้งนั้นการถือถ่ายภาพอาจต้องมือนิ่งสักนิดนึงครับ

user interface จากกล้องหลัง ในส่วนของการตั้งค่าถ่ายวีดีโอ

ในการถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหลังสามารถถ่ายในความละเอียดสูงสุด UHD อัตราส่วน 16:9 หรือหากอยากถ่ายในอัตราส่วน 18:9 ก็ต้องลดความละเอียดลงมาเหลือที่ FHD ครับ

user interface จากกล้องหลัง ในส่วนโหมดถ่ายภาพต่างๆ

 

user interface จากกล้องหลัง ในส่วนโหมด Manual

สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็ยังมีมาให้ลองใช้กันพอดีๆ ครับ อาทิ พาโนรามา, 360 พาโนรามา, อาหาร, Popout, Snap, Slo-mo และ Time-lapse นอกจากนี้ยังมีโหมด Manual มาให้เลือกใช้สำหรับชอบปรับแต่งก่อนถ่ายภาพอีกด้วย

user interface จากกล้องหน้า

สุดท้ายกับกล้องหน้า ที่มากับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, f/2.2 มีโหมดถ่ายเซลฟี่เดี่ยวๆ กับเซลฟี่ในมุมกว้างสำหรับหลายคน มาพร้อมโหมดปรับแต่งความขาวใสของใบหน้าด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหลัง

ภาพนี้ถ่ายด้วยโหมดปกติ ด้วยเลนส์มุมปกติที่ 71 องศา

 

ถ่ายจากจุดเดียวกัน แต่เปลี่ยนมาใช้เลนส์มุมกว้าง 125 องศา

 

ภาพถ่ายจากเลนส์มุมกว้าง 125 องศา

ภาพถ่ายด้วยโหมด Manual

การใช้งานอื่นๆ

LG UX 6.0 เป็น user interface สำหรับ LG G6 ออกแบบในธีมเรียบง่าย แฝงด้วยฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ซึ่งผมจะขอยกเพียงบางฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาบอกแนะนำกันนะครับ

– Always-on display : จะแสดงเวลาและการแจ้งเตือนให้เรารู้ในขณะปิดหน้าจอ สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้

 

– แบตเตอรี่ : นอกจากโหมดประหยัดพลังงานที่มีให้ใช้แถบทุกสมาร์ทโฟน ใน LG G6 ยังมีโหมดประหยัดพลังงานในขณะเล่นเกมด้วย เป็นการปรับคุณภาพวีดีโอในเกม และเมนู Smart Doctor สำหรับปรับแต่งประสิทธิภาพโทรศัพท์ เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลสม่ำเสมอ

รีวิว LG G6 กับบทสรุป น่าซื้อหรือไม่ ?

จากประสิทธิภาพเรื่องการถ่ายภาพคงเป็นจุดขายที่ทำให้หลายคนเกิดความสนใจ โดยเฉพาะการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ในมุมกว้างได้แสนง่ายดาย ประกอบกับเรื่องกันน้ำ ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ หากคุยโทรศัพท์ในที่กลางแจ้งแล้วฝนตกก็ไม่ต้องกลัวว่าถ้าเครื่องเปียกแล้วจะพัง

ส่วนตัวเครื่องที่ว่าเป็นดีไซน์ใหม่สำหรับ LG คงกล่าวได้ว่ายกเครื่องทั้งหมดจาก LG G5 ในสายตาคนอื่นๆ อาจดูสวย ส่วนตัวผมเฉยๆ นะ คงเป็นเพราะความชิน เพราะตอนนี้หลายแบรนด์เลือกการออกแบบคล้ายๆ กันนี้ออกมาเพียบ

ข้อจำกัดของการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังคู่ ประการแรก การใช้เลนส์มุมกว้างจะไม่มีระบบ Auto Focus และกันสั่น ดังนั้นจะมือนิ่งกันสักหน่อย ประการที่สอง การถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ที่คงพูดได้ว่าเป็นกระแสสำหรับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนในยุคนี้ แต่ LG G6 ยังขาดหายไป

สุดท้ายนี้ ในส่วนอื่นๆ ผมยังให้ “สอบผ่าน” ครับ แต่ปัจจัยอื่นๆ นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ราคา 24,900 บาท ยังเป็นส่วนที่หลายคนต้องขบคิดพอสมควร เช่นเดียวกับเรื่องศูนย์บริการ ซึ่งหากหลายคนสนใจและมองข้ามเรื่องเหล่านี้ ก็อย่ารอช้าครับ !!