นิยามของสมาร์ทโฟนทุกวันนี้คงไม่เพียงใช้โทรออก-รับสาย, คุยแชท, เล่นเกม, ดูหนังเท่านั้น แต่การถ่ายภาพยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นๆ ได้ไม่ยาก ซึ่งจะเห็นว่าสมาร์ทโฟนประเภทกล้องคู่เป็นเทรนด์ที่มาแรง และ ASUS เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่หันมาให้ความสนใจพัฒนาสมาร์ทโฟนกล้องคู่ รีวิว ASUS ZenFone Zoom S ครั้งนี้ แฟนๆ COMTODAY และ www.aripfan.com จะได้ยลโฉมประสิทธิภาพที่น่าสนใจจากรุ่นนี้กันครับ
ASUS ZenFone Zoom S สเปกมีดังนี้
– หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล), กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
– ใช้งานได้ 2 ซิม (ซิมประเภท NANO SIM) แบบไฮบริด
– ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย ZenUI 3.0
– แรม 4GB, พื้นที่เก็บข้อมูล (รอม) 64GB รองรับ microSD Card ความจุสูงสุด 2TB
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
– กล้องหลังเลนส์คู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ระบบโฟกัสภาพแบบ TriTech+, Optical Zoom 2.3x, แฟลชคู่ Dual-LED, รองรับการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K
– เลนส์ตัวแรก ให้ระยะโฟกัส 25mm, ค่ารูรับแสง f/1.7, ระบบกันสั่น OIS (4-axis) และ EIS สำหรับวีดีโอ, เลนส์ตัวที่สอง ให้ระยะโฟกัส 59mm, ค่ารูรับแสง f/2.8, ซูมภาพได้ถึง 12 เท่า
– กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/2.0
– พอร์ต USB Type-C และรองรับ USB-OTG
– แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ถอดฝาหลังและแบตเตอรี่ไม่ได้
– ราคา 16,990 บาท
ดีไซน์ : จากที่เคยสัมผัส ZenFone มาตั้งแต่รุ่นแรก จนมาถึง ZenFone Zoom S วัสดุที่ใช้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามความนิยมของแต่ละยุคสมัย ในรุ่นที่เรารีวิวนี้หันมาใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลักของฝาหลัง ด้านหน้าเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ครอบทับเพื่อให้ความทนทานต่อแรงตกหล่นและรอยขีดข่วนรูปร่างมีลักษณะคล้าย Zenfone 3 ZE520KL ในด้านความเรียบง่ายของงานดีไซน์ประกอบกับความโค้งมนของมุมทั้งสี่ด้าน จะมีเสารับสัญญาณในลักษณะเส้นแนวนอนพาดอยู่ด้านหลังในส่วนบนและส่วนท้าย เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกแบบที่หลายค่ายเลือกใช้
ด้านหน้า : อย่างที่เรียนไปตอนต้น ZenFone Zoom S เลือกใช้จอแสดงผลประเภท AMOLED ที่สนับสนุนสีขาวและสีปกติให้มีความคมชัด ตอบสนองต่อการมองเห็นในทุกสภาพแสง ด้านบนของจอแบ่งเป็นลำโพงสนทนาในตำแหน่งกลาง, กล้องหน้า และไฟ LED แจ้งเตือน ถัดลงมาท้ายของจอจะเป็นปุ่มโฮม, ปุ่มย้อนกลับ และปุ่ม recent app ไม่มีไฟ LED ในตัว
ด้านหลัง : ใช้โลหะเป็นวัสดุหลัก กล้องหลังเลนส์คู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ ระบบโฟกัสแบบ TriTech+ อยู่ติดกับแฟลชคู่ Dual-LED และถัดลงมาเป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือ
ในส่วนประกอบอื่นๆ คลิกชมที่ภาพเหล่านี้ได้เลยครับ
Software : User Interface ทาง ASUS ยังใช้รูปแบบของ Zen UI เพียงแต่อัพเกรดขึ้นมาเป็นรุ่น 3.0 ครอบทับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow อีกที ไม่มีที่แตกต่างเพิ่มเติมขึ้นจาก ZenFone 3 แต่คาดว่าอีกไม่นาน ZenFone Zoom S จะได้อัพเดทไปใช้ Android 7.0 Nougat ให้ทันสมัยเสียที ส่วนความลื่นไหลนับว่าใช้งานได้อย่างสบายใจ ยังไม่แสดงเรื่องความหน่วงหรือแอพเด้งในระหว่างใช้งานให้เห็น
ลูกเล่นเล็กๆ ที่ไม่ได้ใหม่นักอย่างสแกนลายนิ้วมือ เราสามารถเปิดใช้ให้เป็นตัวรับสายเรียกเข้า, ใช้เพื่อเปิดกล้องและถ่ายภาพได้ในตัว นอกเหนือจากการสแกนลายนิ้วมือเพียงอย่างเดียว
เจสเจอร์สัมผัส เป็นอีกลูกเล่นที่นำมาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเรียกใช้งานต่างๆ เช่น การวาดตัว S บนหน้าจอเพื่อเรียกใช้กล้องถ่ายภาพด้านหน้า หรือวาดตัว C เพื่อใช้กล้องหลัง เป็นต้น ขณะที่การใช้ท่าทางเพื่อควบคุมยังมีให้ใช้งาน เช่น การรับสายเรียกเข้าเพียงยกเครื่องขึ้นมาแนบที่หู เป็นต้น
ด้านความบันเทิง : ด้วยพลังการประมวลผลของ Qualcomm Snapdragon 625 พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกอย่าง Adreno 506 ทำให้การใช้งานเล่นเกมเต็มไปด้วยความสนุกต่อเนื่อง ลื่นไหล มีการจัดการด้านความร้อนและพลังงานที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันภายใน ZenFone Zoom S ยังมีระบบเสียง SonicMaster เติมเต็มทุกรายละเอียดเสียงเมื่อต่อกับหูฟัง
ตัวอย่าง ลองเล่นเกม ROV ผ่าน ASUS ZenFone Zoom S
ตัวอย่าง การทดสอบบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K
กล้องถ่ายภาพ : เป็นจุดขายสำหรับ ZenFone Zoom S โดยเฉพาะกล้องหลังเลนส์คู่ แยกเป็นลนส์ตัวแรกให้ระยะโฟกัส 25mm, ค่ารูรับแสง f/1.7, ระบบกันสั่น OIS (4-axis), เลนส์ตัวที่สองให้ระยะโฟกัส 59mm, ค่ารูรับแสง f/2.8, ซูมได้ถึง 12 เท่า ระบบโฟกัสภาพในรุ่นนี้เรียกว่า TriTech+ เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระบบ Dual Pixel PDAF + Laser Auto Focus และ Subject-Tracking Auto Focus เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้การจับโฟกัสภาพที่รวดเร็วเพียง 0.03 วินาที พร้อมสำหรับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์แม้เพียงเสี้ยววินาที
สเปกรวมของกล้องหลังเลนส์คู่ยังมีความสามารในการซูมแบบที่เรียกว่า Optical Zoom ได้ 2.3x โดยไม่เสียความละเอียด ขณะที่การซูมแบบปกติ (Digital Zoom) ได้ถึง 12 เท่า, ระบบกันสั่น OIS (4-axis) และ EIS สำหรับการบันทึกวีดีโอที่รองรับความละเอียดสูงสุด 4K
โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกเยอะเช่นเคย
โหมดมืออาชีพหรือโหมด Pro สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดถึง 12800
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
โหมด Auto
โหมดระยะชัดตื้น (Depth of Field)
โหมดถ่ายภาพกลางคืน พร้อม Optical Zoom 2x
กล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 13 ล้านพิกเซล มีโหมดเพื่อการเซลฟี่ให้สวย มุ้งมิ้ง สามารถเลือกปรับได้หลายระดับตามความพึงพอใจ
โหมดบางส่วนจากกล้องหน้า
รีวิว ASUS ZenFone Zoom S กับบทสรุปในครั้งนี้
การดีไซน์ไม่ได้หวือหวานัก เน้นไปที่การใช้กล้องถ่ายภาพเป็นสำคัญ ตอบโจทย์เรื่องการถ่ายภาพทั้งแบบปกติและแบบมืออาชีพผ่านกล้องหลังเลนส์คู่ เป็นคุณสมบัติที่เข้ามาขยายขีดความสามารถของการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 5000 mAh ที่ยกระดับการใช้งานให้อยู่ได้ตลอดทั้งวัน
ขณะที่ความโดดเด่นในซอฟต์แวร์ยังไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจน ยังเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า ต้องรอการอัพเดทสู่ Android 7.0 Nougat ซึ่งหากมีการอัพเดทคาดว่าน่าจะได้การพัฒนาขึ้นในทั้ง User Interface และประสิทธิภาพของโหมดถ่ายภาพต่างๆ
รายละเอียด ASUS ZenFone Zoom S จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ASUS ประเทศไทย