จีบหลอก แฉกลโกง Romance Scammer สูญเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์

Romance Scammer

ในบรรดากลโกงหรือ Scammer ประเภทต่าง ๆ มีเพียงไม่กี่ประเภทที่ทำแล้วได้ผลดี นั่นคือ Romance Scammer ครับ นี่เป็นเหตุที่ทำให้คนในอเมริกาสูญเสียเงินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มากกว่า Scammer ในหมวดอื่น ๆ
.
ตามข้อมูลของคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐของสหรัฐอเมริกา หรือ FTC จำนวนเงินที่หลอกลวงจากผู้ที่ใช้กลโกงจาก Romance Scammer พุ่งสูงขึ้นมากช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 547 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 ซึ่งมากกว่า 6 เท่า หากเทียบในปี 2020
.
โดยปกติแล้ว ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักสูญเสียเงินประมาณ 2,400 ดอลลาร์ หรือประมาณ 76,000 บาท ซึ่งถือเป็นเงินจำนวนที่มากพอสมควร และหลาย ๆ คดีมักจะเงียบไปเพราะผู้เสียหายละอายเกินกว่าจะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังหรือแจ้งตำรวจครับ
.
Romance Scammer มีรูปแบบหลายอย่าง โดยมักจะเกี่ยวข้องกับการสร้างโปรไฟล์ปลอม ซึ่งมักจะใช้รูปภาพที่น่าดึงดูด โชว์เงิน โชว์รถหรู โดยใช้ภาพที่หาได้ง่ายจากอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้พวก Scammer ยังมีการศึกษาเป้าหมายและติดตามเพื่อดูว่าเป้าหมายชอบอะไรหรือสนใจอะไรเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวงให้มากขึ้น
.
โดยปกติแล้ว Scammer จะใช้แอพหาคู่ในการติดต่อหาเหยื่อ เพราะจะปลอมโปรไฟล์ได้ง่าย แต่ตอนนี้ มากกว่าหนึ่งในสามของผู้เสียหายเมื่อปีที่ผ่านมาบอกว่า พวกเขาถูกติดต่อผ่านช่องทาง Facebook และ Instagram กันมากขึ้น
.
สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณที่ทักมาคุยจะเป็น Scammer คือ เขาจะมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถมาพบเหยื่อได้ด้วยตนเอง เช่น ทำงาน อยู่ห่างไกล ไม่มีเงินมากมาย หรือไม่สะดวก และเมื่อสร้างสายสัมพันธ์จากการคุยได้แล้ว Scammer จะพยายามเล่าสาเหตุที่พวกเขาที่ต้องการเงินเช่น เด็กป่วย ญาติป่วย อยากได้เงินเพื่อบินมาหา (กรณีอยู่ต่างประเทศ) ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีได้ชั่วคราว สุขภาพไม่ดีและมีวิกฤตทางการเงิน
.
ทั้งนี้ FTC ได้เตือนผู้คนอย่าส่งเงินให้ใครก็ตามที่พวกเขาเพิ่งพบทางออนไลน์เพราะมีโอกาสสูงที่พวกนั้นจะเป็น Scamer ครับ
.
จริง ๆ ในบ้านเราก็มีเรื่องแบบนี้มานานแล้วเนอะ ส่วนใหญ่มิจฉาชีพจะเป็นคนจีนหรือคนอินเดียที่ปลอมโปรไฟล์เป็นฝรั่งหล่อ ๆ มาหลอกคนไทยให้โอนเงินไปต่างประเทศ แล้วพวกนั้นก็จะหายเข้ากลีบเมฆไป ส่วนวิธีการ ก็เป็นวิธีข้างต้นที่บอกไปก่อนหน้านี้ครับ ดังนั้น ก่อนจะอื่นให้ใคร ถามตัวเองก่อนว่าเรารู้จักเขาดีแค่ไหนนะ…
.
ที่มาข้อมูล
techspot