เรารู้ว่าสื่อสังคมออนไลน์นั้นไม่ดีต่อสุขภาพจิตของเรา แต่บางครั้งเราก็เสพติดมันจนเผลอไปกดโลโก้รูปตัว F ทุกที มารู้ตัวอีกทีก็สไลด์ไป 2-3 ทีแล้ว
การศึกษาจำนวนมาพบว่าการใช้ Facebook ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าตามมา โดยเป็นความรู้สึกอิจฉา ความรู้สึกโดดเดี่ยว และบางคนถึงขั้นมองไม่เห็นค่าของตัวเอง ลองถามตัวเราเคยเป็นแบบนั้นบ้างไหม เวลาเห็นเพื่อนซื้อรถใหม่แล้วถ่ายรูปอวดลงเฟส โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ารถนั้นของเพื่อนจริงไหม? หรือรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เพราะทำอะไรได้ดีไม่เท่าคนอื่นเขา
จากการศึกษาพบว่าหลังจากเลิก Facebook หนึ่งสัปดาห์สุขภาพจิตของผู้คนได้เข้าทดสอบดีขึ้นมากและความรู้สึกอิจฉาของพวกเขาก็ลดลง ซึ่งชัดเจนแล้วว่าสื่อสังคมออนไลน์เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเรา แล้วไมเราถึงไม่หยุดตัวเองล่ะ? นั่นดิ เพราะอะไร ในความจริง เราอาจจะกำลังต้องการบางอย่างจาก Facebook อยู่ แต่สิ่งที่เราได้รับมันมักจะมากเกินไป (ก็จริง)
การศึกษาใหม่ที่ตีพิมพ์ใน Cyberphysiology, Behaviour and Social Networking โดยคัดเลือกคนเกือบ 2,000 คน โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 34 ปี และแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งให้เล่น Facebook ไปตามปกติ และอีกกลุ่มให้เลิกเล่น Facebook เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และทั้งสองกลุ่มจะต้องตอบแบบสอบทั้งก่อนและหลังระยะเวลาสำรวจเพื่อเก็บทัศนคติของพวกเขาเกี่ยวกับ Facebook รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ Facebook
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์กลุ่มที่เลิกใช้ Facebook มีสุขภาพจิตดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นรวมทั้งความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น อันนี้สำเคสที่ใช้ Facebook อย่างหนักนะ แต่สำหรับพวกที่นาน ๆ ใช้ทีหรือเช็ควันละ 3 – 4 ครั้งต่อวัน การศึกษานี้จะไม่ค่อยมีผลกับพวกเขาเท่าไหร่นัก แต่พวกที่ใช้อย่างหนัก พวกเขามีอารมณ์และสภาพจิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญ
ฉะนั้นหากใครรู้ว่าตัวเองกำลังติด Facebook อย่างหนัก (ตัวคนเขียนเองก็คิดว่าติดหนักเหมือนกัน) ให้ลองลดละเลิกดูสักอาทิตย์นึงแล้วสภาพจิตเราอาจจะดีขึ้น โดยสามารถรู้สึกได้จริง ๆ ก็ได้ ไปลองดูกันนะ
Source : Forbes