ในที่นี้ “ เช็กอิน” ไม่ได้หมายถึงการ เช็กอินเข้าพักในโรงแรมที่พักนะครับ แต่เป็นการ เช็กอินใน Social Network ต่างๆ โดยเฉพาะ Facebook เพราะว่าเวลาเราไปเที่ยว นอกจากรูปที่ต้องเอาไปอวดเพื่อนๆ แล้ว การเช็กอินยังเป็นการบ่งบอกว่า “ฉันมาถึงแล้ว (จริงๆ นะ)”
คงไม่ต้องแปลกใจที่เวลาไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวใดก็แล้วแต่มักจะเห็นวัฒนธรรมของคนที่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาก้มหน้าก้มตาพิมพ์สถานะและ เช็กอินตามสถานที่ต่างๆ อย่างหนาตา รวมถึงอาจจะมีการเซลฟี่ วีฟี่กันสารพัด
แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือที่สามารถทำการ เช็กอินได้ก็จำเป็นจะต้องมีระบบ GPS เป็นหลัก เพื่อระบุตำแหน่งของเราว่าเราอยู่ที่ไหน
ส่วนแอพฯ ที่เลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณแล้วล่ะ จะโพสต์ใส่ Facebook เป็นข้อความเก๋ๆ ก็ได้ หรือจะถ่ายภาพขึ้น Instagram พร้อมระบุ Location ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
อย่างที่บอกว่ามันเป็นวัฒนธรรมที่เวลาไปเที่ยว นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังจะต้องมีการเก็บภาพประทับใจต่างๆ เอาไว้ด้วย เราจะเห็นบรรดานักท่องเที่ยวรูปถ่ายภาพจากจุดชมวิว หรือแลนด์มาร์คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซลฟี่หรือวีฟี่ก็ตาม
สมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้ก็เป็นใจ เพราะกล้องออกแบบมาให้มีความคมชัดสูงมาก ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลย แถมยังสามารถอัพโหลดไปแชร์บน Facebook ได้ทันทีอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วเวลาไปเที่ยวแทบจะไม่ต้องพกกล้องถ่ายรูปไปแล้ว สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว… อยู่
สำหรับแอพฯ ถ่ายรูปก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลาย บางคนก็ชอบแบบธรรมชาติ ก็สามารถใช้แอพฯ กล้องธรรมดา หรือจะหน้าใสวิ้งๆ อย่าง Camera 360 ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน หรือถ้าต้องการฟิลเตอร์สวยๆ ก็สามารถโหลดแอพฯ ที่มีฟิลเตอร์ตามแบบที่คุณชอบมาได้อีก
มากมาย ส่วนตัวผมนั้นไม่เยอะครับ ขอใช้แค่ถ่ายด้วย Camera360 ให้หน้าวิ้งๆ แล้วโยนไปใส่ฟิลเตอร์ใน Instagram จากนั้นโพสต์แล้วแชร์ต่อไปที่ Facebook พอ … สาบานได้ว่า “ไม่เยอะ” ^_^
ส่วนอุปกรณ์ที่แนะนำสำหรับขาแชะซึ่งจัดว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้วนั่นคือ ไม้เซลฟี่พร้อมรีโมต สำหรับถ่ายตัวเอง หรือถ่ายภาพหมู่คณะแบบไม่ต้องรบกวนคนอื่นมาถ่ายให้ หรืออาจจะมีอุปกรณ์เสริมอย่างเลนส์มุมกว้าง ที่เดี๋ยวนี้มีขายครอบไปบนกล้องสมาร์ทโฟน ก็จะได้มุมมองที่กว้างขึ้น หรือมีมุมมองอื่นๆ ตามลักษณะของเลนส์ที่ใช้อีกด้วย