ย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีก่อน นาธาน บี. สตับเบิลฟิลด์ (Nathan B. Stubblefield) ซึ่งเป็นชาวไร่แตงโม ในมลรัฐเคนทักกี้ สหรัฐอเมริกา ผู้ชายซึ่งสนุกกับการคิดค้นสิ่งต่างๆ ที่คนทั่วไปคิดว่า “เป็นไปไม่ได้” แล้วใครเลยจะเชื่อว่าวันหนึ่ง เขาจะได้ชื่อว่าเป็น ผู้คิดค้นโทรศัพท์มือถือ!
นาธานเริ่มทดลองพูดคุยโทรศัพท์กับลูกชายโดยส่งสัญญาณผ่านพื้นดินและน้ำ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในทันที แต่ด้วยความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า เขาก็ประสบผลสำเร็จ ก่อนที่พัฒนาต่อจนกลายเป็นโทรศัพท์ไร้สาย หรือที่เราเรียกกันว่า “โทรศัพท์มือถือ”
นาธาน บี. สตับเบิลฟิลด์ เกิดเมื่อปี 1860 ที่เมืองเมอเรย์ มลรัฐเคนทักกี้ แม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อตอนเขาอายุ 14 ปี จากนั้นจึงไปอยู่โรงเรียนประจำ พร้อมทั้งศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองมาโดยตลอด ด้วยการอ่านหนังสือทุกประเภทที่หาได้ในเมือง ไม่ว่าจะเป็น Scientific American และ Electrical World ภายหลังจากที่มีครอบครัวแล้ว เขาได้มีลูกทั้งหมด 9 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่แบเบาะ 3 คน โดยมีลูกชาย 1 ใน 6 ที่เหลือ ชื่อว่า เบอร์นาร์ด เป็นผู้ช่วยคนแรกของนาธานในการคิดค้นโทรศัพท์ไร้สาย
โทรศัพท์ไร้สายรุ่นแรกนั้นถูกคิดค้นขึ้นในปี 1908 โดยในสมัยนั้นรูปร่างหน้าตาของโทรศัพท์ไร้สายไม่ได้เหมือนอย่างวันนี้ โดยจะมีเสาส่งของโทรศัพท์ในขณะนั้นเป็นโลหะวงกลม 2 วง ซึ่งมีสายไฟร้อยอยู่ตรงกลาง ส่วนตัวรับส่งสัญญาณจะติดตั้งไว้ที่ยานพาหนะ เช่น รถไฟ หรือเรือ เมื่อยานพาหนะดังกล่าวเคลื่อนเข้ามาใกล้เสาส่งโทรศัพท์ สัญญาณก็จะถูกส่งผ่านคลื่นสนามแม่เหล็ก ทำให้โทรศัพท์สองเครื่องสามารถเชื่อมสัญญาณกันได้ เขาได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปว่า เป็นชายผู้เปลี่ยนโลก แม้แต่ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Virgin ยังยกย่องผ่านเว็บไซต์ของ Virgin Mobile ว่านาธานคือบิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการคิดค้นของเขาได้เปลี่ยนแปลงการสื่อสารของโลกเลยทีเดียว
หน้าตาโทรศัพท์มือถือไร้สายในสมัยก่อน
ในปี 1907 ก่อนที่นาธานจะคิดค้นโทรศัพท์ไร้สายได้ 1 ปี เขาได้เปิดสอนหนังสือที่บ้าน (Home School) ชื่อว่าโรงเรียนอุตสาหกรรมของนาธาน สตับเบิลฟิลด์ (The Nathan Stubblefield Industrial School) ซึ่งสร้างในไร่แตงโมของเขา และกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยแห่งรัฐประจำเมืองเมอเรย์ (Murray State University) ในปัจจุบันนั่นเอง
ถ้าไม่ได้ชายคนนี้โลกของเราก็คงยังกว้างใหญ่มากๆ คงไม่สามารถได้ยินเสียงคนที่เราคิดถึงที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งได้